กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--อาร์ค เวิลด์ไวด์
ผลิตภัณฑ์มากมายในปัจจุบัน ทั้งสิ่งอุปโภคบริโภค ที่มีอยู่เต็มท้องตลาดนั้น เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าผลิตภัณฑ์ที่เราใช้อุปโภคบริโภคกันอยู่ทุกวันนั้นปลอดภัย และจะดีไหม หากมีองค์กรที่จะเข้ามาดูแล เป็นด่านหน้าในการตรวจสอบถึงคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ให้กับผู้บริโภคพวกเราก่อน ในปัจจุบันองค์กรที่ว่านั้น มีทั้งในส่วนของที่เป็นองค์กรจากรัฐบาลที่เข้ามาดูแล และองค์กรเอกชนที่มีส่วนร่วมในการผลิต จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาสู่มือผู้บริโภคอย่างปลอดภัย องค์กรที่ว่านั้นจะเป็นอื่นไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ สำนักคณะกรรมการอาหารและยา หรือที่รู้จักและเรียกกันติดปากว่า อย. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญในการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ อันได้แก่ อาหาร ยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน วัตถุเสพติด เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้หากเราซึ่งเป็นกลุ่มผู้บริโภคได้เห็นการรับรองหรือสัญลักษณ์ที่ได้รับจาก อย. แล้ว ก็เปรียบเหมือนเป็นเครื่องหมายแห่งความ อุ่นใจในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้อีกขั้นหนึ่ง
และเมื่อเร็วๆนี้ ทางสำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้จัดงานมอบ รางวัล อย. Quality Awards 2010 เพื่อเป็นการสร้างขวัญ เป็นกำลังใจ และเชิดชูเกียรติแก่ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สุขภาพ ตามแนวคิดที่ว่า “คุณภาพ ปลอดภัย ใส่ใจสังคม” ให้แก่ผู้ประกอบการใน 6 สาขา ได้แก่ อาหาร ยา เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ วัตถุอันตราย และ ผลิตภัณฑ์สุขภาพชุมชน รวมทั้งหมด 22 สถานประกอบการด้วยกัน โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่มาเป็นประธานมอบโล่เกียรติคุณในงานนี้ กล่าวถึงรางวัลนี้ว่า “โครงการส่งเสริมจริยธรรมผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์สุขภาพ ถือว่าเป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์ และเป็นจุดเริ่มต้นในการส่งเสริมสถานประกอบการด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ ให้มีคุณธรรมและจริยธรรมในการผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างปลอดภัย ซึ่งจะเป็นการเชิดชูและประกาศเกียรติคุณสถานประกอบการที่มีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคและสังคม ด้วยการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้บริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน และจะเป็นการกระตุ้นให้สถานประกอบการรายอื่นๆ ได้ปฏิบัตตาม ซึ่งจะช่วยลดปัญหาอันตรายที่อาจได้รับจาการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพ และยังสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในการบริโภคผลิตภัณฑ์อย่างปลอดภัยอีกด้วย”
รางวัล อย. Quality Awards จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2552 และในปี 2553 นี้ถือเป็นปีที่ 2 ที่มีการดำเนินงานต่อเนื่องมา สำหรับ พี แอนด์ จี ประเทศไทย เป็นองค์กรที่ได้รับการคัดเลือกจากสำนักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ได้รับรางวัลโล่เกียรติคุณประเภทสถานประกอบการด้านเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ ปลอดภัยและใส่ใจต่อสังคม “ซึ่งสถานประกอบการที่ผ่านหลักเกณฑ์ คือ ต้องมีการผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อจำหน่ายในประเทศที่ได้คุณภาพและมีมาตรฐานในการผลิต เช่น มาตรฐาน GMP, HACCP, ISO มีการรักษาคุณภาพมาตรฐานการผลิตด้วยดีมาโดยตลอด ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคเป็นสถานประกอบการที่มีการประกอบการที่ดี โดยปีที่ผ่านมาปฏิบัติและดำเนินงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกประการมีการส่งเสริมการขายอย่างมีจริยธรรม ประกอบการด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และมีกิจกรรมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ” นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว
บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ พี แอนด์ จี ประเทศไทย นั้นเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค รวมกว่า 20 แบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย อาทิ ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแพนทีน ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าโอเลย์ และผลิตภัณฑ์โกนหนวดยิลเลตต์ เป็นต้น และรางวัลที่ได้รับจากงาน อย. Quality Awards 2010 นั้น “เป็นรางวัลที่เราทุกคนรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนในองค์กรตั้งใจทำในสิ่งที่ดีที่สุด เพื่อที่จะได้ผลิตผลิตภัณฑ์ที่ดีออกมาสู่มือผู้บริโภคทุกคนอย่างมีคุณภาพและมีมาตรฐานปลอดภัยในทุกชิ้น ในขณะเดียวกันกระบวนการผลิตของเราได้คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเรารู้ถึงความต้องการของผู้บริโภคว่าทุกท่านคาดหวังกับผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ ปลอดภัยและได้มาตรฐาน และในวันนี้รางวัลนี้ก็เป็นเหมือนสิ่งที่การันตีถึงสิ่งที่พวกเราทุกคนร่วมกันทำมาเป็นอย่างดี และผมขอให้คำมั่นสัญญากับผู้บริโภคทุกท่านว่า พี แอนด์ จี เราจะพัฒนาในสิ่งที่ดีๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและความพึงพอใจของผู้บริโภคทุกท่าน” มร. ราอูล ที ฟอลคอน กรรมการผู้จัดการ บ. พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (ประเทศไทย) กล่าว
สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือกบริษัทที่เข้ารับการประเมิน เพื่อรับรางวัล อย. Quality Awards 2010 มีอยู่ 6 หลักเกณฑ์ด้วยกัน คือ
1. มีการผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อจำหน่ายในประเทศที่ได้คุณภาพ หากเป็นบริษัทที่ผลิตเพื่อการส่งออกต้องมีการจำหน่ายในประเทศด้วย
2. มีการรักษาคุณภาพมาตรฐานการผลิตด้วยดีมาโดยตลอด มีการนำเอาระบบคุณภาพมาพัฒนา หรือควบคุมการผลิตให้ผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ท้องตลาดมีคุณภาพ
3. จะต้องเป็นบริษัทที่ไม่เคยถูกดำเนินคดี หรือถูกปรับ หรือถูกตักเตือนในเรื่องการผลิตขาย และโฆษณาย้อนหลังเป็นเวลา 2 ปี
4. บริษัทที่เคยได้รับรางวัลแล้ว สามารถรับรางวัลซ้ำได้
5. มีระบบในการตอบสนองต่อผู้บริโภค (Customer Relations)
6. ประกอบการด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม มีกิจกรรมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) เช่น การให้ความรู้กับผู้บริโภค การดูแลสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมกิจกรรมที่พัฒนาด้านสังคม คุณธรรม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ฯลฯ
เหตุผลที่ บ. พี แอนด์ จี ประเทศไทย ควรได้รับรางวัล อย. Quality Awards 2010 ตามสโลแกน “คุณภาพ ปลอดภัย ใส่ใจสังคม” และตามหลักเกณฑ์ดังนี้
1. ฐานการผลิตเครื่องสำอางเพื่อการส่งออกระดับภูมิภาค
บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “พี แอนด์ จี ประเทศไทย” เป็นผู้ผลิตสินค้ากลุ่มดูแลเส้นผมและบำรุงผิว ภายใต้เครื่องหมายการค้า Olay, Head & Shoulders, Rejoices, Pantene, Vidal Sassoon และล่าสุดได้มีการขยายการผลิตสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า Wella เป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศในสัดส่วนโดยประมาณ 10% และอีก 90% เป็นการผลิตเพื่อการส่งออกในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ได้แก่ กลุ่มประเทศในอาเซียน, กลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง เช่น อิยิปต์, ซาอุดิอารเบีย, จีน, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ญี่ปุ่น, เกาหลี, อินเดีย และ สหรัฐอเมริกา เป็นต้น
2. มาตรฐานการผลิตและระบบประกันคุณภาพระดับสากล
พี แอนด์ จี ประเทศไทยได้พัฒนากระบวนการผลิตและระบบประกันคุณภาพอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องตามมาตรฐาน Good Manufacturing Practice ในระดับสากล ทั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจบริษัทในการที่มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย มีคุณภาพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้บริโภค ตลอดจนปฏิบัติตามกฎระเบียบในทุกๆประเทศที่บริษัทได้ดำเนินธุรกิจ (“Touch and Improve the lives of the world’s consumers, now and for generations to come”)
3. พี แอนด์ จี วางเป้าหมายลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้ได้ 50% ภายในปี 2012
บริษัทพีแอนด์จี ที่มีสาขาอยู่ทั่วโลกนั้นมีความมุ่งมั่นใส่ใจในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิต โดยมีเป้าหมายในการลดผลกระทบต่อสิงแวดล้อมให้ได้ 50% ภายใน 10 ปี (2002-2012) ซึ่งพีแอนด์จี ประเทศไทยได้เริ่มดำเนินการไปแล้วตั้งแต่รอบปี FY06/07 (เดือนกรกฎาคม 2006 ถึง มิถุนายน 2007) โดยวางเป้าหมายให้ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในแต่ละด้านต่างๆให้ได้อย่างน้อย 20% (ต่อหน่วยผลิตภัณฑ์) ทุกปี นอกจากนี้ พีแอนด์จี ประเทศไทย ยังได้รับรางวัล “ธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม ปี 2552” โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ฉะเชิงเทรา กระทรวงอุตสาหกรรม โดยนำหลักธรรมาภิบาลมาดำเนินธุรกิจซึ่งทำให้ผู้ประกอบการและชุมชนสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยไม่เกิดปัญหาขัดแย้ง ภายใต้เกณฑ์ที่ดี 7 ข้อ ได้แก่ 1) ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร 2) ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา 3) ความโปร่งใส 4) ความรับผิดชอบต่อสังคม 5) นิติธรรม 6) ความยุติธรรม และ 7) ความยั่งยืน
4. งานบริการลูกค้าสัมพันธ์ (Consumer Relations)
บริษัท พี แอนด์ จี มีระบบการให้บริการลูกค้าผ่านสายด่วนผู้บริโภคทั่วทั้งภูมิภาคเอเซียผ่านคู่สายกว่า 200 สาย เพื่อทำการบันทึกรายละเอียดการให้บริการ และให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท, รับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า รวมไปถึงชดเชยต่างๆ หากลูกค้าได้รับปัญหาจากการใช้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่พึงพอใจ และเป็นการตอบแทนที่ได้ให้ความไว้วางใจในผลิตภัณฑ์ของบริษัท
5. พี แอนด์ จี กับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability)
จากการดำเนินธุรกิจจนถึงปัจจุบันกว่า 172 ปี พี แอนด์ จี ยึดถือหลักธรรมาภิบาล โดยมียุทธศาสตร์ในการพัฒนาธุรกิจและสังคมอย่างยั่งยืน 5 ประการ ซึ่ง Corporate Social Responsibility (CSR) เป็นส่วนหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์ของบริษัท นั่นคือ
1) ผลิตภัณฑ์ - การปรับปรุงพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อให้ได้สินค้ามีความปลอดภัย คุณภาพและมีประสิทธิภาพ ตอบสนองและปรับปรุงคุณภาพชีวิตผู้บริโภค และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
2) กระบวนการผลิต - กระบวนการผลิตและระบบประกันคุณภาพในมาตรฐานสากล ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ การขนส่ง รวมทั้งตระหนักถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่อชุมชน โดยมีกำหนดเป้าหมายไว้ชัดเจน
3) ความรับผิดชอบต่อสังคม - พี แอนด์ จี ประเทศไทยได้มีดำเนินโครงการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมดังต่อไปนี้
ทุนการศึกษา Safeguard ร่วมกับสมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย ให้กับนักศึกษาจากสาขาเทคนิคการแพทย์ของมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับนักศึกษาที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจแต่ขาดทุนทรัพย์ ซึ่งดำเนินมาจนถึงปัจจุบันนับเป็นปีที่ 14 แล้ว รวมทุนการศึกษาที่มอบไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 120 ทุน
ทุนการศึกษาศูนย์วิจัยเครื่องสำอาง ม.นเรศวร -เฮด แอนด์ โชว์เดอร์ ให้กับนักศึกษาสาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่มีผลการเรียนสูงสุดและนักศีกษาเรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันได้มอบทุนต่อเนื่องเป็นปีที่ 4
โครงการ “หนึ่ง ปี หนึ่ง โรงเรียน” พีแอนด์จี ร่วมกับมูลนิธิเพื่อนศิลปิน ซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 5 แล้ว จุดประสงค์เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กไทย โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในชนบท ในชุมชน ซึ่งขาดแคลน อาคารเรียนไม่เพียงพอต่อการรองรับนักเรียน
โครงการ “Give Back to the Community 2009” by P&G Education Development Foundation (EDF) โดยมีจุดประสงค์ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับสถานที่ตั้งโรงงาน พี แอนด์ จี จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีกิจกรรม อาทิ การจัดทำสวนเกษตรเชิงนิเวศน์ เพื่อเป็นอาหารกลางวัน, การจัดทำอาคารเก็บขยะและการฝึกอบรมเรื่องการแยกขยะภายในโรงเรียน,ส่งเสริมวิชาความรู้ด้านการเกษตรเพื่อสามารถเป็นอาชีพและมีรายได้ และการส่งเสริมภาพลักษณ์ และความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบริษัทและชุมชน
แหล่งดูงานร่วมกับนิสิตชั้นปีที่ 5 คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ
พี แอนด์ จี ประเทศไทยร่วมกันกับคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ต้อนรับคณะอาจารย์และนิสิตมาเยี่ยมชมและเป็นแหล่งดูงานด้านกระบวนการผลิต และระบบประกันคุณภาพระดับสากล และยังเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ด้านเทคโนโลยีด้านเครื่องสำอาง เพื่อให้นิสิตมีประสบการณ์ตรง และส่งเสริมเกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องสำอางในอนาคต ปัจจุบันได้ดำเนินมาเป็นปีที่ 11
พี แอนด์ จี ร่วมก่อตั้งและสนับสนุนกิจกรรมสถาบันบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม โดยเข้าร่วมเป็นกรรมการบริหารของสถาบันฯ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาททุกปี ปัจจุบันเป็นระยะเวลา 5 ปีแล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะลดขยะบรรจุภัณฑ์ให้เหลือในกองขยะในสัดส่วน 19% (จากเดิม 40%) ภายในระยะเวลา 5 ปี (2005-2009) ซึ่งปัจจุบันได้บรรลุเป้าหมาย คือเหลือเพียง 16%
4) การมีส่วนร่วมของพนักงานบริษัท — พี แอนด์ จี ประเทศไทยได้มีปลูกจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคมแก่พนักงาน และความมีส่วนร่วมในหลายๆโครงการ เช่น “Take the R for Tomorrow” , ความมุ่งมั่นในการลด Carbon footprint
5) ความร่วมมือกับหน่วยงาน/องค์กร เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันในระดับประเทศ ตัวอย่าง
การร่วมสนับสนุนจัดตั้ง สถาบัน บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้สภาอุตสาหกรรม โดยใช้หลักการ Integrated Waste Management/ Life Cycle Assessment จากนักผู้เชี่ยวชาญจากพีแอนด์จี ประเทศเยอรมนี และอังกฤษ เป็นผู้ถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน การสนับสนุนงานคุ้มครองผู้บริโภคและการเข้ามีส่วนร่วมในการพิจารณาออกหลักเกณฑ์ กฎระเบียบ ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง ได้แก่มาตรฐานการผลิตที่ดี (GMP cosmetics), กฎระเบียบเครื่องสำอางอาเซียน, การได้รับเกียรติเป็นโรงงานผลิตเครื่องสำอางตัวอย่าง ในการเข้าเยี่ยมชมเพื่อศึกษาดูงานจากคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร, กรมโรงงานอุตสาหกรรม, กลุ่มควบคุมเครื่องสำอาง, สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เป็นต้น โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง เช่นสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค, สำนักนายกรัฐมนตรี, กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง, กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : อาร์ค เวิลด์ไวด์ ประเทศไทย
สิริพุทธนัดดา ดิศศานุวงศ์ (เจ้าอ้น) / โทร + 66 2 684 5704
อีเมลล์ Siribuddhanadda.Dhisanuvongse@th.arcww.com
รุ่งรัตน์ ชดช้อย (ใหม่) / โทร + 66 2 684 5703
อีเมลล์ Rungrat.Chodchoy@th.arcww.com
ทอฝัน เพ็ชรดี (ทราย) / โทร +66 2 684 5563
อีเมลล์ Torfun.Petchdee@th.arcww.com