กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--บมจ.หลักทรัพย์ กิมเอ็ง
KEST เสริมทัพธุรกิจโบรกเกอร์รักษาแชมป์มาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ตั้ง บลจ.กิมเอ็ง ออกกองทุนตลาดเงินรูปแบบใหม่ของเมืองไทย KECASH สร้างโอกาสเพิ่มผลตอบแทนและอำนวยความสะดวกให้นักเล่นหุ้น นอกจากนั้นเผยเตรียมออก B/E และ Derivatives Warrant ภายในปีนี้
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEST เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ในปัจจุบันยังคงมีการแข่งขันอยู่ในระดับที่ค่อนข้างรุนแรง ขณะที่นักลงทุนเองก็ให้ความสำคัญกับการบริการที่ครบวงจรของโบรกเกอร์ ทั้งในแง่ของการสร้างผลตอบแทนสูงสุด การมีบทวิจัยและบริการเสริมในด้านต่างๆที่สมบูรณ์แบบ รวมทั้งการนำเสนอช่องทางและผลิตภัณฑ์การลงทุนรูปแบบใหม่ๆ เพื่อเป็นโอกาสในการเพิ่มมูลค่าผลตอบแทนให้กับลูกค้า
ถึงแม้ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา KEST จะเป็นโบรกเกอร์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากเป็นอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 12.5% แต่บริษัทก็ได้มีการพัฒนาและนำเสนอบริการใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในด้านต่างๆให้กับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ โดยล่าสุดได้ทำการจัดตั้ง บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KEAT ขึ้น เพื่อเสริมบริการด้านการลงทุนให้มีความครบวงจร และสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับลูกค้า
ทั้งนี้ KEAT มีทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท บมจ.หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ถือหุ้น 100% ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้สามารถประกอบธุรกิจได้ รวมทั้งอนุมัติให้จัดตั้งและจัดการกองทุนกองแรกแล้ว โดยกองทุนรวมกองแรก ได้แก่ กองทุนเปิดกิมเอ็งบริหารเงิน “KECASH” ที่จะเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไปนั้น จะทำการลงทุนในตลาดเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลตอบแทนของนักลงทุนที่มีการลงทุนในหุ้น “ผมขอขอบคุณทีมงานของ บลจ. กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ทุกท่านที่ได้อุทิศความพยายามเพื่อคิดค้นพัฒนาบริการใหม่นี้ ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถบริหารจัดการเงินลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” คุณมนตรีกล่าว
คุณมนตรี เปิดเผยอีกว่า บมจ.หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มีแผนที่จะออกตั๋วแลกเงิน (B/E) เพื่อเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นข้อมูลเพื่อขอเสนอขายตั๋วแลกเงินให้กับนักลงทุนต่อ ก.ล.ต. คาดว่าจะสามารถเสนอขายได้ภายในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ อีกทั้งบริษัทมีแผนที่จะดำเนินการออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivatives Warrant: DW) ภายในปีนี้ด้วยเช่นกัน
คุณบุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจหลักทรัพย์รายย่อย ยืนยันว่า “บริษัทมีความเชื่อมั่นว่า KECASH จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนสำหรับลูกค้าในอนาคต ลูกค้าจะไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยอีกต่อไป เป้าหมายของเรา คือ การเพิ่มผลตอบแทนสูงสุดให้ลูกค้าอย่างยุติธรรมเท่าที่บริษัทสามารถบริการลูกค้าได้ KECASH ถือเป็นทางออกของบริการที่เพิ่มผลตอบแทนที่ดีกว่าสำหรับลูกค้า เมื่อต้องการโยกเงินลงทุน”
นายพงศ์พันธุ์ อภิญญากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KEAT เปิดเผยว่า KEAT จัดตั้งขึ้นจากความประสงค์ของบมจ.หลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ที่ต้องการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจด้านการลงทุนของบริษัทและบริษัทในเครือให้ครบวงจร และสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้อย่างสูงสุด อีกทั้งเพื่อรักษาความเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจหลักทรัพย์ในประเทศ
สำหรับจุดเด่นของ KEAT นอกเหนือจากการเป็นบริษัทในเครือบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำอันดับหนึ่งที่มีความน่าเชื่อถือแล้ว ยังมีการบริหารกองทุนโดยผู้จัดการกองทุนมืออาชีพที่มีประสบการณ์ มีนโยบายการลงทุนที่ชัดเจน และที่สำคัญไปกว่านั้น KEAT จะเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความพึงพอใจ และรูปแบบการลงทุนของนักลงทุนที่มีหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยยึดหลักการสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้นักลงทุน
ทั้งนี้กองทุนแรก KECASH ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน จะเน้นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี ที่มีความน่าเชื่อถือ และให้ผลตอบแทนในระดับที่ดี อีกทั้งมีสภาพคล่องที่สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ และไม่เสียภาษีดอกเบี้ยที่ได้รับจากการลงทุน
“KECASH คือกองทุนรวมสายพันธุ์ใหม่ ที่เน้นการสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับนักลงทุน ด้วยนวัตกรรมใหม่ที่บริษัทในเครือกิมเอ็ง สร้างสรรค์และพัฒนาระบบร่วมกัน ระหว่างการซื้อขายหลักทรัพย์และหน่วยลงทุน ซึ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย”นายพงศ์พันธุ์ กล่าว
นอกจากนี้ KECASH ยังแตกต่างจากกองทุนรวมตลาดเงินอื่นๆ คือ ผู้ถือหน่วยสามารถใช้หน่วยลงทุนเป็นหลักประกันวงเงินการซื้อขายหุ้นได้ (15% ของวงเงิน) อีกทั้งลูกค้าบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์สามารถนำเงินที่ได้จากการขายหลักทรัพย์ โอนมาซื้อเป็นหน่วยลงทุนของกองทุนได้โดยอัตโนมัติ และเช่นเดียวกันหากลูกค้ามีการซื้อหลักทรัพย์ บลจ.ก็จะทำการขายหน่วยลงทุนและนำเงินที่ได้จากการขายหน่วย โอนมาชำระค่าซื้อหลักทรัพย์โดยอัตโนมัติ ทำให้เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าและนักลงทุน
จุดเด่นที่สำคัญที่สุดของ KECASH ซึ่งถือว่าเป็นการพัฒนาระบบการซื้อขายหลักทรัพย์และหน่วยลงทุนของบริษัทในเครือกิมเอ็ง คือ เงินที่ได้รับจากการขายหลักทรัพย์ ด้วยระบบ Auto Settlement บริษัทหลักทรัพย์จะทำการสั่งซื้อหน่วยลงทุน KECASH ทันที ทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากการซื้อหน่วยลงทุนในวันที่ได้รับเงินจากการขายหุ้น (T3) ซึ่งทำให้นักลงทุนจะไม่เสียผลตอบแทน 1 วันทำการ เมื่อเทียบกับการนำเงินไปซื้อหน่วยลงทุนตลาดเงินอื่นๆ
กองทุนเปิดกิมเอ็งบริหารเงิน KECASH มูลค่ากองทุน 5,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐไทย เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธปท. เงินฝาก และ/หรือ ตราสารทางการเงิน และตราสารหนี้ภาคเอกชน ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ นักลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ และได้รับเงินจากการขายหน่วยลงทุนในวันถัดไปจากที่ส่งคำสั่งขายคืน คาดว่าจะเสนอขายหน่วยลงทุน KECASH ในวันที่ 14-22 กันยายน 2553 ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่การตลาดของลูกค้ากิมเอ็ง หรือติดต่อที่สาขาของบริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็งทุกแห่งทั่วประเทศ หรือโทร call center 0-2658-5050
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
คชภพ สงวนวงศ์ / สิริวรรณ ลีลาประกอบชัย
โทร. 02-735-6917
อีเมล์ boy@worklink.co.th / cherry@worklink.co.th