กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ ลุยพัฒนาเด็กและเยาวชนผ่าน แคมป์ค้นหาหัวใจทองคำ เน้นสร้างทัศนคติและเป้าหมายที่ดีในการดำเนินชีวิต เตรียมความพร้อมให้เด็กก่อนออกสู่การใช้ชีวิตในสังคมปกติ เล็งดำเนินโครงการต่อเนื่อง เพื่อลดปัญหาเด็กและเยาวชนอย่างยั่งยืน
นายอิสสระ สมชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์ปัญหาเด็กและเยาวชนที่ขาดการดูแลเอาใจใส่ขั้นพื้นฐานจากครอบครัวมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เด็กกลุ่มนี้มีความจำเป็นต้องเข้ามาอยู่ในความดูแลของสถานสงเคราะห์ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงฯ ซึ่งมีจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 6,000 คน การแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยความร่วมมือของหลายภาคส่วนในการร่วมกันแก้ไข ด้วยการดำเนินงานหลากหลายรูปแบบที่เน้นการพัฒนาเด็กทั้งในด้านพฤติกรรมและจริยธรรม
ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความพร้อมให้กับเด็กก่อนที่จะออกจากสถานสงเคราะห์ไปใช้ชีวิตร่วมกับสังคมปกติ โดยการสร้างพื้นฐานทางจิตใจและทัศนคติที่ดีในการใช้ชีวิตให้กับเด็ก ไม่รู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่น ซึ่งในขณะนี้กระทรวงฯได้ดำเนินการโครงการ “แคมป์ค้นหาหัวใจทองคำ” เพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนในสถานสงเคราะห์ 29 แห่งทั่วประเทศที่อยู่ในการกำกับดูแล โดยมีเด็กเข้าร่วมทั้งสิ้นจำนวน 600 คน แบ่งการดำเนินการออกเป็น 5 ครั้งประกอบด้วย ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้
สำหรับการดำเนินงานของแคมป์ค้นหาหัวใจทองคำ จะเน้นการฝึกอบรมและการทำกิจกรรมร่วมกันของเด็กและเยาวชนที่เข้าร่วม เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้เข้าไปในจิตใจของเด็ก ให้สามารถควบคุมทัศนคติของตนเองได้ เข้าใจจิตใจตนเอง รวมทั้งสามารถตั้งเป้าหมายที่มีคุณค่าทั้ง 6 ด้านให้กับตนเองได้ในรูปแบบของแผนที่ชีวิต ซึ่งประกอบด้วย สุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจ เศรษฐกิจ ครอบครัว สังคม และการยกระดับจิตวิญญาณ หรือ คุณธรรม ความดี
“โครงการแคมป์ค้นหาหัวใจทองคำดำเนินการเป็นครั้งแรกในปีนี้ ด้วยวัตถุประสงค์ที่ต้องการสร้างพื้นฐานอันสำคัญที่สุดให้กับเด็กและเยาวชน ซึ่งก็ คือ หัวใจและความคิด เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การพัฒนาด้านอื่นๆ ขณะนี้กระทรวงฯได้ดำเนินการจัดกิจกรรมไปแล้ว 3 ครั้ง และจากการประเมินผล
เบื้องต้น พบว่า เด็กที่เข้าร่วมรู้จักตนเองมากขึ้น มีทัศนคติเชิงบวกในการดำเนินชีวิต ซึ่งหลังจากดำเนินการครบทั้ง 5 ครั้ง จะมีการประเมินผลกิจกรรมและประสิทธิผลที่เกิดขึ้นกับตัวเด็กอีกครั้ง คาดว่าจะมีการดำเนินโครงการนี้อย่างต่อเนื่องทุกปี เพื่อให้เด็กและเยาวชนทุกคนได้รับการปลูกฝัง และการพัฒนาที่ดีต่อไป” นายอิสสระ กล่าว