กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--สหมงคลฟิล์ม
ถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่อง “ชั่วฟ้าดินสลาย” จะเป็นเรื่องราวโศกนาฏกรรมความรัก ที่ชวนดำดิ่งไปสู่ห้วงรักและตัณหา แต่ผู้กำกับฝีมือละเมียดอย่าง “หม่อมหลวงพันธุ์เทวนพ เทวกุล” กลับสะท้อนมุมมองของพุทธศาสนา สัจจธรรม และธรรมชาติของมนุษย์ โดยพูดคุยในรายการที่นี่หมอชิต ร่วมกับนักแสดงนำอย่าง “อนันดา เอเวอริงแฮม”, “บี๋ ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์” และ “ท็อป ดารณีนุช โพธิปิติ” พร้อมเหล่าบรรดาลูกศิษย์รุ่นเล็กรุ่นใหญ่มากมายในวงการ ที่ตบเท้ากับมาแลกเปลี่ยนความคิดและทัศนคติหลังจากร่วมชมภาพยนตร์
ถือว่าเป็นฤกษ์งามยามดีที่บรรดาศิษย์เอกของหม่อมน้อยได้มารวมตัวกันในคลาสแอ็คติ้งเพื่อชมภาพยนตร์เรื่อง “ชั่วฟ้าดินสลาย” ไม่ว่าจะเป็น เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์, รัดเกล้า อามระดิษ, แพท สุธาสินี, วิชญาณี เปียกลิ่น (แก้ม เดอะสตาร์) และ ปูไข่ พงศ์สิริ บรรลือวงศ์ พร้อมกับนักแสดงนำในเรื่อง ซึ่งครั้งนี้มีความพิเศษตรงที่ทุกคนได้ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นและตีความพฤติกรรมต่างๆ ของตัวละคร ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปอย่างสนุกสนานและเข้มข้น โดยหลายคนมองว่าตัวละคร “ส่างหม่อง” เป็นตัวละครที่น่าสงสารที่สุด เพราะไปเป็นชู้กับเมียของอาตนเอง ซึ่งทำลงไปความซื่อความอินโนเซ้นต์ จนพบกับความสูญเสียที่ไม่อาจเรียกกลับคืนมาได้ แต่หนุ่มอนันดากลับมองในมุมกลับกันว่าตัวละคร “พะโป้” เป็นผู้ที่แบกรับความทุกข์ในเรื่องนี้ไว้ทั้งหมด สูญเสียคนรัก อีกทั้งยังถูกหลานรักหักหลังคบชู้กับเมียตัวเอง งานนี้ทำเอานักแสดงรวยอารมณ์ขันอย่างท็อป ดารณีนุช ต้องก้าวออกมาปกป้องศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง ทั้งยืนยันและนอนยันว่าตัวละครที่ตนเองรับบท “มะขิ่น” ต่างหากที่น่าสงสารที่สุดในเรื่องนี้ เพราะเป็นผู้ที่ถูกทอดทิ้งแต่ยังคงมีความภักดีต่อพะโป้อย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง งานนี้เล่นทำเอาพิธีกรเถียงแทบไม่ทัน เพราะต่างคนก็ต่างความคิดเห็นยกมือตอบกันแบบแย่งชิงเป็นนักเรียนหน้าห้องสุดฤทธิ์ ซึ่งนั่นก็เป็นวิธีการเรียนการสอนจริงๆ ในคลาสแอ็คติ้งของบรมครูอย่างหม่อมน้อย ที่ทั้งได้อารมณ์สนุกๆ พร้อมสาระสำคัญอีกทั้งยังเข้าถึงแก่นแท้ของตัวละคร โดยหม่อมน้อยได้กล่าวสรุปบทเรียนในคลาสนี้ไว้ได้อย่างกินใจว่า
“ไม่ว่าจะเป็นพะโป้ที่ถูกเมียและหลานรักหักหลัง หรือยุพดีกับส่างหม่องที่ถูกจับล่ามโซ่ไว้ด้วยกัน แต่ผลสุดท้ายแล้วทุกตัวละครต่างก็ได้รับผลจากการกระทำด้วยกันทั้งนั้น ยามใดมีความสุขโซ่นั้นก็จะหย่อน แต่เมื่อใดที่โซ่ตึงปัญหาก็ย่อมเกิด จริงๆ แล้วตัวละครทุกตัวต่างก็มีโซ่นั้นอยู่ในใจของตนเอง ตรงกับหลักพุทธศาสนาที่ทำให้เรากลับมาคิดว่าต้องมีสติอยู่ในความพอดี ทุกบ้างสุขบ้างปะปนไป ก็พูดได้ว่าเรื่องนี้มันตีแผ่สันดานดิบ สิ่งที่ซ่อนลึกเบื้องหลังตัวละครทุกตัว ส่วนในเชิงความรัก มนุษย์เราเมื่อมีรักก็อยากใกล้ชิดกัน แต่พอเบื่อหน่ายก็ต้องการอิสรภาพ เพราะธรรมชาติมนุษย์เราเกิดคนเดียวก็ตายคนเดียว ตรงนี้เป็นสัจธรรม ซึ่งต้องยกความดีให้กับครูมาลัย ชูพินิจ ผู้ประพันธ์ ประเด็นของเรื่องนี้เป็นอมตะ และไม่เชยเลยถึงแม้ว่าจะเขียนเมื่อ 70 ปีที่แล้ว”
ติดตามภาพบรรยากาศคลาสแอ็คติ้งของเหล่านักแสดงมากฝีมือได้ในรายการ “ที่นี่หมอชิต” ออกอากาศวันที่อาทิตย์ที่ 12 กันยายนนี้ ทางช่อง 7 และร่วมค้นหาคำตามความรักในแบบ “ชั่วฟ้าดินสลาย” ได้ 16 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์