เจ-บิ๊คส์ ฟิล์ม ผุดบิ๊กโปรเจ็ค “ไอเท็น ครีเอทีฟมอลล์” ศูนย์ไอที-บันเทิง ครบวงจร พื้นที่กว่า 2,200 ตรม. ใจกลางศูนย์คมนาคมรถใต้ดินและรถไฟฟ้า ตลาดนัดจตุจักร

ข่าวเทคโนโลยี Monday September 13, 2010 14:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 ก.ย.--เจ-บิ๊คส์ ฟิล์ม บริษัท เจ-บิ๊คส์ ฟิล์ม จำกัด ผู้นำด้านความบันเทิงครบวงจร ประกาศเปิดตัวโครงการ “ไอเท็น ครีเอทีฟมอลล์” ห้างสรรพสินค้าด้านไอทีและบันเทิงครบวงจร รวมทั้งเป็นศูนย์รวมแห่งความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ในบริเวณพื้นที่ของอาคาร “อินสแควร์” โครงการใหม่ ตรงข้ามองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร อยู่ติดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกำแพงเพชร ใจกลางชุมทางขนส่งมวลชนของกรุงเทพ รองรับกำลังซื้อของตลาดไอทีไทยที่กำลังโตขึ้นในอนาคตมากกว่า 8-10 ล้านคนต่อปี นายนพชัย ศรีสุวนันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เจ-บิ๊คส์ ฟิล์ม จำกัด เปิดเผยว่า “หลังจากที่บริษัท ประสบความสำเร็จในด้านการทำตลาดภาพยนต์ดีวีดีและวีซีดี ที่มีลิขสิทธ์ถูกต้องตามกฎหมายกับกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบความบันเทิงในบ้าน ขณะนี้ทางเราได้มีศักยภาพและความพร้อมในการทำโครงการใหม่ๆขึ้นมาเพื่อเป็นการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผสมผสานความบันเทิงและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ทางเราจึงได้ริเริ่มโครงการ “ไอเท็น ครีเอทีฟมอลล์” ห้างสรรพสินค้าด้านไอทีและบันเทิงครบวงจรรวมทั้งเป็นศูนย์รวมแห่งความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ มีมูลค่าโครงการกว่า 700 ล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 2,200 ตารางเมตร ของชั้น 4 อาคาร “อินสแควร์” ซึ่งอยู่ในทำเลที่ยอดเยี่ยมที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพ คือ ตั้งอยู่บริเวณถนนกำแพงเพชร ตรงข้ามตลาดนัดจตุจักร และ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) รวมทั้งยังอยู่ในใจกลางชุมทางขนส่งมวลชนของกรุงเทพ ติดสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกำแพงเพชร ซึ่งทำเลนี้ถือได้ว่าเป็นพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของผู้มาเยือนต่อพื้นที่สูงมากตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์นับแสนคน พร้อมกับพื้นที่แห่งนี้จะอยู่ใกล ้กับสถานีบางซื่อ เพียง 1 สถานี ซึ่งสถานีบางซื่อ จะกลายเป็นชุมทางขนส่งมวลชนของกรุงเทพ เช่น สายสีแดง (ตลิ่งชัน) และ สายสีม่วง (บางใหญ่) ในอนาคตอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ซึ่งเราและอินสแควร์ ได้คาดการณ์ว่า ในพื้นที่ของอาคารจะมีผู้มาเยือนมากกว่าสองแสนคนต่อสัปดาห์ หรือคิดเป็นมากกว่า 8-10 ล้านคนต่อปี” “จุดเด่นของโครงการ คือ การตั้งอยู่ในแหล่งใจกลางเมืองที่เป็นตลาดนัดมหาชนระดับนานาชาติใหญ่ที่สุดในโลกที่มีผู้มาเยือนถึง 8-10 ล้านคนต่อปี รวมทั้งในรัศมี 10 กิโลเมตร ไม่มีการขายสินค้ากลุ่มไอทีและบันเทิงอย่างมืออาชีพ จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจไอทีและโทรคมนาคม ในการที่จะขยายสาขาหรือหน่วยงาน รวมทั้งเปลี่ยนสถานที่ใหม่และประกอบธุรกิจใหม่เพื่อการเปิดร้านค้าหรือโชว์รูมสินค้า, จัดกิจกรรม, ส่งเสริมการขาย, การตั้งศูนย์บริการก่อนและหลังการขาย ซึ่งพื้นที่ของห้างไอเท็น ครีเอทีฟมอลล์ เหมาะกับการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มซื้อปลีกทั่วไป กลุ่มซื้อส่งต่างจังหวัด กลุ่มต่างชาติ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการที่จะลงทุนในพื้นที่สามารถมั่นใจได้การขายสินค้าทุกชนิดและยังมีลูกค้าแน่นร้านทุกวันโดยเฉพาะวันหยุดที่สามารถสร้างกำไรครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้เพียงพอ” “สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่จะมาเป็นร้านค้าในโครงการ โดยเป็นสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี ค่าเช่าเริ่มต้นตั้งแต่ 3.5 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเราจะมุ่งเน้นคัดเลือกจากบริษัทมืออาชีพที่มีประสบการณ์ในกลุ่มธุรกิจเจ้าของแบรนด์หรือผู้ค้าที่เป็นตัวแทนหลักของแบรนด์สินค้า ในกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ รวมทั้งศูนย์บริการหลังการขายแบบมืออาชีพ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เกมส์และสินค้าเพื่อความบันเทิงต่างๆ สินค้าเทคโนโลยี และ สินค้าสร้างสรรค์ต่างๆ นอกจากนี้ทางโครงการยังจะจัดให้มีพื้นที่สำหรับส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ โดยเราจะเป็นศูนย์กลางแห่งความคิดสร้างสรรค์ และมีพื้นที่สำหรับการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์แปลกใหม่เพื่อเป็นการเสริมสร้างคนรุ่นใหม่ให้ได้มีเวทีสำหรับการนำเสนอ พร้อมที่จะทำธุรกิจในอนาคตสามารถนำมาดำเนินธุรกิจได้จริง ซึ่งจะมีการจัดพื้นที่โรงภาพยนตร์ดิจิตอลและห้องประชุมสัมมนาทุกวัน เพื่อการนำเสนองานของคนรุ่นใหม่ รวมทั้งจัดลานกิจกรรมส่งเสริมการขาย ให้ทั้งผู้ค้าที่เช่าพื้นที่และผู้ที่จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายโดยเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์ควบคู่ไปกับการโฆษณาสู่สาธารณะทางสื่อบ ันเทิงในบ้านทั้งซีดีและดีวีดี รวมทั้งการส่งเสริมการส่งออกโดยร่วมมือกับองค์การของภาครัฐที่สนับสนุนโครงการ” “เป้าหมายของ ไอเท็น ครีเอทีฟ มอลล์ และ อาคารอินสแควร์ จะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2554 โดยเรามีแนวคิดว่า พื้นที่ของห้างนี้จะเป็นเสมือน ”มรดกทางธุรกิจ ตลาดความคิดคนรุ่นใหม่” ควบคู่ไปกับการเป็นศูนย์รวมสินค้าไอทีและบันเทิงล้ำสมัยครบวงจรของเมืองไทย เพื่อรองรับกำลังซื้อที่เติบโตขึ้นทุกๆปี ซึ่งในขณะนี้ได้มีลูกค้าบริษัทในกลุ่มธุรกิจเป้าหมายเริ่มสนใจเข้าจองพื้นที่ในโครงการ ประมาณ 20-30 เปอร์เซนต์ และเราคาดการณ์ว่า ในช่วงประมาณไม่เกินกลางปี 2554 พื้นที่ทั้งหมดกว่า 2,200 ตารางเมตรจะถูกจับจองทำสัญญากันหมดเพื่อพร้อมเปิดในช่วงปลายปีหน้าอย่างแน่นอน” นายนพชัยกล่าวสรุป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ