กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--ธนาคารไทยพาณิชย์
ธนาคารไทยพาณิชย์ประกาศ ผลประกอบการเบื้องต้น (งบการเงินรวม) ไตรมาสที่ 2/2550 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 4,311 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 เป็นจำนวน 611 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในอัตรา 16.5% โดยผลกำไรที่ดีมาจากรายได้ดอกเบี้ย รายได้ค่าธรรมเนียม และรายได้จากบริการต่างๆของธนาคารและบริษัทในกลุ่มที่ยังคงเติบโตดีและต่อเนื่อง และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2549 ธนาคารสามารถแสดงกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 139 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น3.3%
ทั้งนี้ ครึ่งปีแรก 2550 ธนาคารมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,010 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วอยู่ 4.6%หรือ 384 ล้านบาท เป็นผลมาจากการที่ธนาคารจ่ายภาษีเงินได้ที่มากขึ้น และการตั้งสำรองเพิ่มเพื่อรองรับสภาวะทางธุรกิจที่ยังไม่มีความแน่นอน
คุณกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า "จุดเด่นของการดำเนินงานในครึ่งปีแรกมาจาก การขยายตัวของสินเชื่อซึ่งเติบโตในอัตรา 5.4% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด การขยายตัวเป็นไปได้ดีในสินเชื่อ SME และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เมื่อประกอบกับการบริหารต้นทุนเงินฝากที่ได้ผล ทำให้รายได้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin) ขยับสูงขึ้นเป็น 3.6%จุดเด่นอีกประการมาจากการขยายตัวต่อเนื่องของ ธุรกิจจัดการกองทุนรวม ซึ่งสอดคล้องกับสภาวะดอกเบี้ยขาลงที่ผู้ฝากเงินจะแสวงหาตราสารที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ย โดยทางธนาคารยังคงเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจนี้ด้วยส่วนแบ่งตลาด 22%
ในส่วน สินทรัพย์ด้อยคุณภาพหรือ NPL ถือว่าอยู่ในระดับที่ธนาคารบริหารและจัดการได้ ทั้งนี้ NPL ณ สิ้นมิถุนายน 2550 อยู่ที่ 3.9% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2549 ซึ่งอยู่ที่ 5.5% อย่างไรก็ตามธนาคารจะได้มีการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของ NPL ในอนาคต"
ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร กล่าวเสริมว่า "ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ที่ดีและต่อเนื่องนี้ เป็นการตอกย้ำว่า ยุทธศาสตร์ที่เน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพของทั้งกลุ่ม เป็นทิศทางที่ถูกต้อง ซึ่งธนาคารและบริษัทในกลุ่มจะยังคงมุ่งมั่นใน ยุทธศาสตร์นี้ ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีเยี่ยม เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า"