กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--สมาคมชาวโบ๊เบ๊
สสว.จับมือ สมาคมชาวโบ๊เบ๊ ผนึกกำลังบุกตลาดส่งออก ประเดิมลุยตลาดโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หวังกรุยทางให้อุตสาหกรรมแฟชั่นไทยก้าวไกลระดับโลก
โครงการกิจกรรมย่อยสนับสนุนเงินทุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Capacity Building Program) เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมเอสเอ็มอี (สสว.) และสมาคมชาวโบ๊เบ๊โดยกลุ่มผู้ประกอบการ Street Fashion เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ในด้านการลงทุน การผลิต การออกแบบ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าแฟชั่นค้าเพื่อส่งออกไปแข่งขันในเวทีโลก โดยมีเป้าหมายบุกเบิกไปยังตลาดในกลุ่มประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และขยายต่อไปทั่วทุกมุมโลก
โดยในครั้งนี้ Street Fashion ได้ประเดิมที่ประเทศสิงคโปร์เป็นประแห่งแรก และมาเลเซียเป็นประเทศที่สอง ซึ่งเป็นการเจรจาการค้าทั้งขายปลีกและส่ง รัฐบาลไทยได้รับการตอบรับจากทั้งสองประเทศให้จัดงานเจรจาการค้า (Thai Exhibition Fair and Business Matching) ที่จะมีขึ้นในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการชาวไทยได้พบปะกับผู้ซื้อโดยตรงจากนักธุรกิจสิงค์โปร์ และ ชาวมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีกำลังการซื้อขนาดใหญ่ โดยมีตัวแทนผู้ประกอบการไทยกว่า 60 ร้านค้า ผู้ผ่านการคัดเลือกจากสมาคม ร่วมเดินทางไปในทริปนี้
นายคมสรรค์ วิจิตรวิกรม อุปนายกสมาคมชาวโบ๊เบ๊ กล่าวว่า “ตลาด Street Fashion เป็นแหล่งรวมเสื้อผ้าสำเร็จรูปนานาชนิด ซึ่งประกอบไปด้วย จำนวนร้านค้ากว่า 250,000 ร้าน ใน 5 แหล่งการค้าด้วยกัน โดยประกอบไปด้วย โบ๊เบ๊ ประตูน้ำ แพลทินัม จตุจักร และสยาม ผู้ซื้อจึงสามารถเลือกหาสินค้าได้หลากหลายชนิดภายในแหล่งเดียว ทั้งผู้ซื้อและผู้ผลิตสามารถติดต่อกันได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ประกอบกับราคาสินค้าที่ไม่แพง จึงมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเข้ามาจับจ่ายซื้อสินค้าเพื่อไปจำหน่ายต่อ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมากต่อปี ทางสมาคมฯ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพการแข่งขันนี้ จึงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาฝีมือและส่งเสริมศักยภาพความสามารถของผู้ผลิตรุ่นใหม่ ได้มีโอกาสในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศมากขึ้น อีกทั้งได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานสสว. ที่ให้ความกรุณาเข้ามาสนับสนุนในด้านการลงทุน และเป็นตัวกลางสำคัญในการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการชาวไทย ได้มีช่องทางในการประชาสัมพันธ์สินค้าของเราไปสู่ตลาดในระดับนานาชาติ สมาคมฯ ได้ทำการคัดเลือกตัวแทนร้านค้าซึ่งมีคุณภาพ ทั้งจุดเด่นด้านดีไซน์ และแพทเทิร์น มีทั้งเสื้อผ้าบุรุษ สตรี และเด็ก เพื่อเป็นตัวแทนในการเข้าร่วมเจรจาในครั้งนี้ โดยได้เริ่มต้นจากประเทศเพื่อนบ้านในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นโซนแรก ในครั้งนี้ประเทศไทยได้รับเกียรติจากรัฐบาลประเทศมาเลเซีย เป็นประเทศแรกที่ได้เริ่มต้นเปิดการเจรจาการค้า เชื่อว่าการเจรจาการค้าในครั้งนี้จะยิ่งเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะผู้มีธุรกิจร้านค้าในบริเวณโบ๊เบ๊ให้เป็นที่รู้จัก และแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ในอนาคตสมาคมฯ มีแผนที่จะขยายตลาดต่อไปยังกลุ่มประเทศสหรัฐเอมิเรต ดูไบ ญี่ปุ่นอีกด้วย” นายคมสรรค์ กล่าวทิ้งท้าย
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเอสเอ็มอี (สสว.) กล่าวถึงบทบาทการเป็นผู้สนับสนุนการจัดโครงการครั้งนี้ว่า “สสว. มีพันธกิจสำคัญในการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อช่วยเหลือ ส่งเสริม และสนับสนุน และกำหนดมาตรการด้านสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม เพื่อให้ผู้ดำเนินธุรกิจ SMEs สามารถพัฒนากิจการให้เกิดความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ เป็นตัวจักรสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงเป็นศูนย์กลางประสานระบบการทำงานของส่วนราชการ องค์กรของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่ส่งเสริม SMEs เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและสอดคล้องในทิศทางเดียวกัน ดังเช่นโอกาสที่ได้ผู้ประกอบการจากสมาคมโบ๊เบ๊ ซึ่งได้ริเริ่มในการรวมตัวกันเพื่อขยายตลาดในการส่งออกไปยังต่างประเทศ หน่วยงานสสว. ยินดีให้การสนับสนุนด้านงบประมาณในการดำเนินการในครั้งนี้ ทั้งนี้เพราะเชื่อมั่นในฝีมือของผู้ประกอบการของคนไทย ซึ่งมีคุณภาพ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าชาติใด และจะมีโอกาสเติบโตได้ในตลาดต่างประเทศ ซึ่งท้ายที่สุดก็จะนำมาซึ่งรายได้และเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของประเทศไทยในภาพรวมอีกด้วย” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
การจัดงานมีทั้งหมด 2 ครั้งด้วยกันคือ ในระหว่างวันที่ 13-17 ตุลาคม ณ ห้างสรรพสินค้า Iluma Shopping Center ประเทศสิงโปร์ และวันที่ 20-24 ตุลาคม ณ ห้างสรรพสินค้า Amcorp Mall ประเทศมาเลเซีย