กรุงเทพฯ--15 ก.ย.--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งสร้างมาตรฐานสินค้าไทยใส่ใจสิ่งแวดล้อมบุกตลาด EU แนะผู้ประกอบการขอใบรับรอง CE Mark สร้างความมั่นใจลูกค้า ชี้เป็นใบเบิกทางส่งออกราบรื่น เสริมขีดความสามารถการแข่งขันให้สูงขึ้น
นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.)และรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้เร่งยกระดับผู้ประกอบการให้ได้รับการรับรองสินค้าโดยมีเครื่องหมาย CE Mark เป็นใบเบิกทางในการส่งสินค้าไปEU เนื่องจากเครื่องหมาย CE Mark เป็นการแสดงว่าสินค้านั้นมีการออกแบบและการผลิตที่เป็นไปตามข้อกำหนดในระเบียบข้อบังคับของ EU เพื่อให้ผู้บริโภคใน EU ได้รับความมั่นใจในสินค้าว่ามีความปลอดภัยในการใช้สินค้าของผู้บริโภค ตามมาตรการรักษาและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และความเข้ากันได้ในคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและอื่นๆ โดยขณะนี้ได้มีการดำเนินการนำร่องเพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการเพื่อให้ได้ เครื่องหมาย CE Mark ใน 10 ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ตู้แช่ กระติกน้ำร้อน โคมไฟ คอมเพรสเซอร์สำหรับเครื่องทำความเย็น สายไฟและชุดสายไฟ ตู้เย็น พัดลมไฟฟ้า หม้อหุงข้าวไฟฟ้า และเครื่องซักผ้า ซึ่งทั้ง10ผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมาจะมีการจัดทำคู่มือสำหรับผู้ประกอบการได้ศึกษาเพื่อสามารถทำมาตรฐานรองรับด้วยตัวเอง จำนวนผลิตภัณฑ์ละ 500 เล่ม
“สำหรับผู้ประกอบการที่ผ่านโครงการจนสามารถติดฉลาก CE Mark ให้ผลิตภัณฑ์ได้ จะเป็นเหมือนใบเบิกทางชั้นดีในการส่งสินค้าไปตลาด EU เนื่องจากผลิตภัณฑ์นำร่องทั้ง 10 ผลิตภัณฑ์ เป็นสินค้าที่มีการส่งออกไป EU ทั้งปริมาณและมูลค่าค่อนข้างสูง และในอนาคตจะได้มีการขยายผลไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกต่อไป เพื่อคงสถานการณ์แข่งขันและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาด EU อีกประการสำคัญในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำในอาเซียน การดำเนินการยกระดับสินค้าเพื่อสอดคล้องกับกฎระเบียบมาตรการต่างๆของประเทศคู่ค้าจะเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้สินค้าไทยในเวทีโลก เป็นการก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงได้เร็วกว่าประเทศอื่นๆ ในอาเซียนด้วยกัน”
นางสุทธินีย์ ยังกล่าวอีกว่า ประเทศสหภาพยุโรปได้ประกาศกฎหมายบังคับให้ผลิตภัณฑ์หลายๆ ชนิด ที่ขายหรือจำหน่ายในสหภาพยุโรปต้องแสดงเครื่องหมาย CE Mark ทั้งนี้เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค โดยผลิตภัณฑ์เหล่านั้นต้องเป็นไปตามข้อกำหนดเกี่ยวกับสุขภาพ ความปลอดภัย และ สิ่งแวดล้อม ซึ่งมีผลทำให้ผู้ที่จะส่งผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายในสหภาพยุโรป ต้องออกแบบและผลิตสินค้าให้เป็นไปตามกฎระเบียบ หรือ Directive(s) ที่กำหนดไว้ จึงจะสามารถแสดงเครื่องหมาย CE Mark บนผลิตภัณฑ์ได้ แม้ว่าทางสหภาพยุโรปจะอนุญาตผู้ประกอบการภายในประเทศต่างๆดำเนินการจัดทำ EC-Declaration of Conformity หรือ EC-DoC ซึ่งเป็นระบบรับรองด้วยตนเอง (Self Declaration) ได้ก็ตาม แต่ผู้ประกอบการไทยยังไม่มีความรู้ ความสามารถเพียงพอที่จะทำ EC-DoC ได้ด้วยตนเอง จึงต้องไปจ้างให้บริษัทที่ปรึกษาต่างชาติช่วยดำเนินการให้ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูง ในอดีตที่ผ่านมาบริษัทที่ปรึกษาเหล่านั้นไม่ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการทำ EC-DoC ให้ผู้ประกอบการไทย อีกทั้งข้อมูลต่างๆ ถูกเก็บรักษาไว้ที่บริษัทที่ปรึกษาทั้งสิ้น เมื่อมีการผลิตสินค้าที่เป็นรุ่น/แบบ ใหม่ขึ้นมา
จำเป็นต้องจัดทำ EC-DoC ใหม่ให้สอดคล้องกัน แต่ผู้ประกอบการไทยไม่ได้ดำเนินการแก้ไข EC-DoC ให้ถูกต้อง เนื่องจากเกรงว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก โดยยังคงใช้ EC-DoC เดิม จึงมีความเสี่ยงที่สูงมากที่ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นถูกร้องเรียน อีกทั้งจะทำให้เสียภาพลักษณ์ของสินค้าที่ส่งออกจากประเทศไทย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2024371 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม