กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดแถลงข่าวการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2553 ยุคดิจิตอลด้วยภาพ HD ครั้งแรกในไทย ณ ห้องอินฟินิตี้ 2 โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ เพื่อค้นหาสาวไทยที่เพียบพร้อมด้วยบุคลิกภาพ มารยาท สติปัญญา และจิตใจงาม ภายใต้แนวคิด “งามอย่างยั่งยืน” โดยรูปแบบของจัดการประกวดในครั้งนี้จะพิเศษขึ้นกว่าเดิม โดยเหล่าสาวงามที่ผ่านเข้ารอบ 18 คนสุดท้าย จะได้ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นการดำเนินตามรอยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ของการก่อตั้งโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย โดยจะเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าประกวดด้วยตัวเอง ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน ถึง 3 ตุลาคมศกนี้ ที่ อสมท พระราม 9 และจัดประกวดรอบตัดสินวันที่ 22 ตุลาคม 2553 ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์
นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ นายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่า “ในโอกาสที่สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบสิทธิ์ให้ อสมท จัดการประกวดนางสาวไทยมาแล้วถึง 2 ปี จากความสำเร็จและความเป็นมืออาชีพ จึงมอบสิทธิ์ให้ อสมท อีกครั้งในการจัดประกวดนางสาวไทย 2553 ประกอบกับปีนี้จะมีความพิเศษกว่าปีอื่นๆ เพราะเป็นปีเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ของการก่อตั้งโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย โดยการประกวดนางสาวไทยในปีนี้จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “งามอย่างยั่งยืน” ซึ่งเหมือนที่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยยั่งยืนมาถึง 100 ปี นางสาวไทยก็เช่นเดียวกัน ที่ไม่ใช่สวยแค่ปีเดียวเท่านั้น แต่ต้องสวยตลอดไป และผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็น นางสาวไทย ยังจะต้องทำงานเพื่อสังคม โดยเป็น “ทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว” และ “ทูตทางการค้า” และร่วมกิจกรรมรณรงค์แก้ไขปัญหาสังคม ด้านการยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา”
นายเขมทัตต์ พลเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ดูแลโครงการประกวดนางสาวไทยประจำปี 2553 เผยว่า “ 2 ปีที่ผ่านมาของการจัดประกวดนางสาวไทย อสมท จะมีโจทย์ในการจัดประกวดทุกปี ปีนี้เช่นเดียวกันและนับเป็นโจทย์ที่ยากมาก คือการร่วมฉลองที่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยครบรอบ 100 ปี โดยแต่ละปีของการจัดการประกวดจะมีแนวคิดหรือธีมเป็นตัวกำหนด ซึ่งการประกวดนางสาวไทย 2553 ภายใต้แนวคิด “งามอย่างยั่งยืน” แบบกุลสตรีไทยร่วมสมัย และความยืนยงที่ยาวนานของโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ตามพระราชปณิธานของรัชกาลที่ 6 ซึ่งแสดงออกในเรื่องของสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต โดยสาวงามที่ผ่านเข้ารอบ 18 คนสุดท้าย จะได้ทำกิจกรรมในช่วงระหว่างการเก็บตัว ในการตามรอยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เดินทางไปจังหวัด นครปฐม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เยี่ยมชมอนุสรณ์สถานสำคัญต่างๆ ของพระองค์ท่าน และยังได้เรียนรู้การทำขนมไทย การจัดดอกไม้ ซึ่งเป็นวิถีของสตรีไทย
ที่ผ่านมาการประกวดนางสาวไทยได้เปิดโอกาสให้ผู้ชมทางบ้าน ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของผู้เข้าประกวดทั้ง 18 คน อย่างใกล้ชิด ผ่านทางเว็บไซต์ รายการเรียลลิตี้ อี-ไดอารี่ ที่สาวงามทั้ง 18 คน จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่พบเจอในแต่วัน แต่ปีนี้จะพิเศษยิ่งขึ้น โดยได้นำมัลติแชนแนลเข้ามาช่วยให้คอนเทนต์ต่างๆ ของนางสาวไทย เข้าสู่ประชาชนทั้งในและต่างประเทศได้อย่างทั่วถึง โดยเว็บไซต์และรายการเรียลลิตี้ยังคงมีอยู่ ซึ่งรายการเรียลลิตี้จะออกอากาศทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี จำนวน 10 ตอน ออกอากาศตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ในช่วงของรายการเช้าดูวู้ดดี้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ยังมีทางทรู วิชั่นส์ จะออกอากาศถึง 3 ช่อง ทั้งรายการเรียลลิตี้ และถ่ายทอดสดวันตัดสิน โดยช่อง 113 จะเป็นช่องออกอากาศด้วยเทคโนโลยีภาพ High Definition หรือ HD ที่ปีนี้ผู้ชมจะได้เห็นผู้เข้าประกวดทั้ง 18 คน อย่างคมชัด ไม่เพียงเท่านี้ในรอบตัดสิน นอกจากถ่ายทอดผ่านโมเดิร์นไนน์ทีวีแล้ว ยังจะถ่ายทอดผ่านทางอาเซียนทีวี พร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นการก้าวสู่ความเป็นอินเตอร์ฯ ซึ่งอาเซียนทีวีออกอากาศทางไทยคม 5 สามารถรับชมได้ 120 ประเทศทั่วโลก
บรรยากาศภายในงานแถลงข่าวยังได้โชว์ตัวอย่างลายผ้าที่ผู้เข้าประกวดรอบ 3 คนสุดท้ายจะสวมใส่ โดยตัดเย็บขึ้นจาก ผ้าฝ้ายทอมือลายกุหลาบเวียงพิงค์ จากมูลนิธิศิลปาชีพ แสดงแบบโดย โจอี้ - อรวิภา กนกนทีสวัสดิ์ นางสาวไทย ประจำปี 2552, เพื่อน - กอบกุลยา จึงประเสริฐศรี รองนางสาวไทย อันดับ 1 และ แนนต์ - วรวิตา จันทร์หุ่น รองนางสาวไทย อันดับ 2 ซึ่งเป็นลายใหม่ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงส่งเสริม และ อสมท ตั้งใจต่อยอดจากปีที่แล้ว ที่ต้องการส่งเสริมลายผ้าใหม่ๆ ของโครงการหลวงต่างๆ และยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำเกี่ยวกับสิ่งทออีกด้วย โดยเวทีนางสาวไทยจะเป็นสื่อกลางในการที่จะนำผ้าไทยออกสู่ตลาดโลก
สำหรับสาวงาม โสด อายุระหว่าง 18 - 25 ปี และส่วนสูงตั้งแต่ 165 เซนติเมตร สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ทาง http://www.mcot.net/missthailand ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือสมัครด้วยตนเองได้ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายนถึง 3 ตุลาคม 2553 ที่บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) พระราม 9 และจะทำการคัดเลือกจากผู้สมัคร ทั่วประเทศเหลือ 124 คน, 40 คน และ 18 คน ในวันที่ 4-6 ตุลาคม 2553 ตามลำดับ โดยผู้ผ่านเข้ารอบ 18 คนสุดท้าย จะได้เข้าเก็บตัวระหว่างวันที่ 11-14 ตุลาคมศกนี้ และประกวดรอบตัดสินกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 22 ตุลาคม 2553 ณ โรงละครอักษรา ถนนรางน้ำ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด
โทร.0-2434-8300 สุจินดา, แสงนภา, ภัควลัญชญ์