กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--สหมงคลฟิล์ม
ประเภท Animation 3D
กำหนดฉาย 4 พฤศจิกายน 2553
ความยาว 85 นาที
เว็บไซด์ภาพยนตร์ http://www.sammysavonturen.nl/
บริษัทจัดจำหน่าย มงคลเมเจอร์
อำนวยการสร้าง/กำกับ เบน สแตสเซน (Fly Me to the Moon 3D, S.O.S. Planet)
เขียนบท โดโมนิก ปารีส (Fly Me to the Moon 3D, The Sleepless)
ให้เสียงพากย์ แซมมี่ ยูริ โลเวนธัล (ให้เสียง Ben 10, Naruto: The Animation)
เชลลี่ เจนนี แมคคาร์ธีย์ (Scary Movie 3, Scream 3)
เรย์ แอนโธนี่ แอนเดอร์สัน (Transformers, Scary Movie 3 & 4)
ฟลัฟฟี่ ทิม เคอร์รี่ (Charlie's Angels, Scary Movie 2)
ท่องโลกใต้ทะเลไปกับเต่าน้อยแซมมี่และผองเพื่อน
ผลงานแอนิเมชั่นสามมิติจากทีมผู้สร้าง Happy Feet
“มันคงจะดีนะถ้าเราได้ออกไปสำรวจโลก” นับตั้งแต่วินาทีแรกที่เต่าน้อย แซมมี่ ลืมตาดูโลก การเดินทางท่องโลกใต้ทะเลอันแสนกว้างใหญ่ก็เริ่มต้น นี่เป็นสิ่งที่เต่าทะเลทุกตัวทำก่อนที่จะกลับมาสู่หาดที่พวกเขาเกิด แซมมี่ ต้องออกไปผจญภัยก่อนที่ตัวเองจะกลับมาพบกับ เชลลี่ คู่แท้ของเขา
ตลอดการเดินทาง แซมมี่ และ เรย์ เต่าทะเลเพื่อนซี้ ได้เห็นการกระทำของมนุษย์ที่ทำลายระบบนิเวศวิทยา แต่เขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อยมนุษย์คนอื่น แซมมี่ ต้องเผชิญหน้ากับปลาปิรันย่า อสรพิษในป่าดงดิบ เจ้าฉลามวายร้าย รวมถึงการค้นพบเส้นทางลับใต้ทะเลลึก... แต่ไม่ว่ากระแสน้ำจะเชี่ยวกรากแค่ไหน หรือเขาต้องอยู่ใต้ท้องทะเลไปอีกนานเพียงใด เขาก็จะขยับครีบไปข้างหน้าเรื่อยๆ เพราะเป้าหมายเดียวของการผจญภัยอันแสนตื่นเต้นและประทับใจก็คือ เพื่อที่เขาจะได้พบกับ แชลลี่ อีกครั้ง
Sammy’s Adventures สร้างด้วยความพิถีพิถันนานกว่า 2 ปี ผลงานของทีมงานจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องเยี่ยม Happy Feet ที่ได้รับรางวัลออสการ์ สาขาแอนิเมชั่นยอดยอดเยี่ยมประจำปี 2006 โดยครั้งนี้ได้เปลี่ยนพระเอกจากเพนกวินเท้าไฟมาเป็นเต่าทะเลผู้มุ่งมั่น กับการเดินทางรอบโลกเป็นเวลาครึ่งศตวรรษเพื่อตามหาคู่แท้
แซมมี่ — “มันคงจะดีนะถ้าเราได้ออกไปสำรวจโลก”
แซมมี่ คือเต่าทะเลที่เปี่ยมไปด้วยชีวิต แต่เขาก็ยังห่างไกลจากคำว่า “ฮีโร่” อยู่อีกโข เขาเป็นเพียงเต่าทะเลธรรมดาที่ได้รับการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิต แซมมี่ เกิดในปี 1959 บนหาดแคลิฟอร์เนีย เขาได้เดินทางใต้ท้องสมุทรเป็นเวลากว่า 50 ปี ในการเดินทางอันแสนยาวนาน แซมมี่ ต้องพบกับภยันอันตรายหลายครั้ง เขากลายเป็นมาสคอตของพวกฮิปปี้ ต้องรับมือกับเหตุการณ์น้ำมันรั่วบนท้องทะเล และเผชิญหน้ากับกระสวยอวกาศ อพอลโล 11 ที่ตกลงกลางมหาสมุทรแปซิฟิก... ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่เสี้ยวนึงในการผจญภัยของเต่าทะเลตัวน้อย
เป้าหมาย: ถึงกระแสน้ำจะเชี่ยวกรากแค่ไหน หรือต้องว่ายในท้องทะเลไปอีกนานเพียงใด เป้าหมายเดียวของ แซมมี่ ก็คือการตามหา แชลลี่ ให้พบ ซึ่งพวกเขาต้องพลัดพรากจากกันตั้งแต่ทั้งสองลืมตาขึ้นมาดูโลก
ลักษณะตัวละคร: แซมมี่ เป็นเต่าทะเลที่กล้าหาญ เขาโหยหาที่จะออกไปผจญภัยในโลกกว้าง และไม่เคยเกรงกลัวต่ออุปสรรคขวางหน้า แซมมี่ ไม่เคยกลัวการต่อสู้ เขาเชื่อมั่นในมิตรภาพ เชื่อในลางสังหรณ์และมองไปข้างหน้าอย่างเดียว
ผู้กำกับพูดถึง แซมมี่: ตั้งแต่ตอนที่ลืมตาดูโลก แซมมี่ ตัวเล็กมากจนไม่สามารถว่ายทวนคลื่นลงสู่ทะเลได้ แต่เขาก็เป็นนักสู้ เขามุ่งมั่นที่จะทำภารกิจให้สำเร็จ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่มีสิ่งใดที่จะมาหยุดเขา แซมมี่ รู้ว่าตัวเองสามารถท่องไปได้ทั่วโลก ขอเพียงแค่เอาขยับครีบไปข้างหน้าเรื่อยๆ แล้วทุกอย่างก็จะลงเอยได้ด้วยดี
เชลลี่ — “โอกาสสำรวจโลกไม่ได้เกิดขึ้นทุกวันหรอกนะ”
เชลลี่ เป็นเต่าทะเลที่เป็นคู่แท้ของ แซมมี่ เธอคือเหตุผลในการเดินทางและผจญภัยของเขา เชลลี่ เป็นเต่าทะเลที่มีความมุ่งมั่นเช่นเดียวกัน เธอต้องการสำรวจโลกใต้น้ำในรูปแบบของตัวเอง เธอใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างเต็มที่และไม่คิดถึงพรุ่งนี้ เส้นทางของ เชลลี่ และ แซมมี่ โคจรมาพบกันอีกครั้งเมื่อทั้งสองเติบโตเป็นผู้ใหญ่
เป้าหมาย: การสำรวจโลกใต้ท้องทะเล รวมถึงค้นหาเส้นทางลับที่ถูกกล่าวขวัญถึงมาหลายชั่วอายุเต่าทะเล
ลักษณะตัวละคร: เชลลี่ มีความคิดเป็นของตัวเอง เธอเป็นเต่าทะเลที่มีความมุ่งมั่น ไม่เคยกลัวอะไร และเป็นนักสู้ขนานแท้ เธอกล้าลองทำทุกอย่าง เปี่ยมไปด้วยพลังงาน เธอต้องการสัมผัสกับความรู้สึกของการผจญภัยใต้ท้องทะเลกว้าง
ผู้กำกับพูดถึง เชลลี่: แซมมี่ ตกหลุมรักกับ เชลลี่ ทั้งหัวใจ ตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาลืมตาดูโลก พวกเขาทั้งสองต้องแยกจากกันและโคจรมาพบกันหลายต่อหลายครั้ง แต่เขาก็ไม่เคยสูญเสียความตั้งใจในการกลับมาอยู่กับคู่แท้ของเขาตลอดไป
เรย์ — “นายเห็นเต่าทะเลแสนสวยว่ายผ่านพวกเราไปรึเปล่า”
เรย์ เป็นเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ของ แซมมี่ ในช่วงเริ่มต้นชีวิต เขาคือเต่าทะเลที่ แซมมี่ ไว้วางใจ เขาฉลาดและใจดี เป็นเต่าที่คอยแนะนำหลักการใช้ชีวิตให้กับ แซมมี่ ช่วยเปิดตาให้เขาดูโลก สิ่งมีชีวิตอื่นบนท้องทะเล และรวมถึงโลกใต้ทะเลทั้งหมด
เป้าหมาย: ดูแล แซมมี่ ในช่วง 10 ปีแรกของการผจญภัย สอนให้เขาได้รู้จักกับโลกใต้น้ำ
ลักษณะตัวละคร: เรย์ เปี่ยมไปด้วยพลังงานและความกระตือรือล้น เขาเป็นเต่าทะเลที่ร่าเริงและเป็นตัวโจ๊ก ชอบออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เขาคอยช่วยเหลือสัตว์น้ำตัวอื่น และเป็นเต่ะเลที่เข้ากับทุกคนได้ง่าย เขาไม่เคยเป็นตัวถ่วงและทำในสิ่งที่เขาต้องการ เรย์ ต้องการผจญภัยและมองหาสิ่งใหม่ๆให้กับชีวิตเสมอ
ผู้กำกับพูดถึง เรย์: เรย์ เป็นเพื่อนที่ แซมมี่ เดินทางร่วมกันในช่วงแรกของชีวิต เขาเป็นเต่าที่อารมณ์ดีตลอดเวลาและยังน่ารัก ความเป็นเพื่อนของพวกเขาจะทำให้คนดูได้เห็นความสำคัญของมิตรภาพ
ฟลัฟฟี่ — “เพราะพวกเต่าเชื่องช้า นายจึงดูเร่งรีบไปซะทุกอย่าง”
ฟลัฟฟี่ เป็นแมวสีสวาทตัวใหญ่ อาศัยอยู่แถวชายหาดแคลิฟอร์เนีย เขาเป็นแมวที่จงรักภักดีต่อกลุ่มฮิปปี้รักธรรมชาติและต่อสู้เพื่อสิทธิของสัตว์ เขาไม่ค่อยยินดีกับการมาของ แซมมี่ ซึ่งกลายเป็นสัตว์ตัวโปรดของทุกคน ฟลัฟฟี่ ต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่ตัวเองจะกลายเป็นส่วนเกินของครอบครัว
เป้าหมาย: การแกล้งและหยอกล้อ แซมมี่ เพื่อทำให้เต่าน้อยตัวนี้ตัดสินใจออกไปจากครอบครัว และกลับไปอยู่ในท้องทะเลให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ลักษณะตัวละคร: ฟลัฟฟี่ เป็นแมวขี้อิจฉาที่ชอบระแวงสัตว์ชนิดอื่น เขาพยายามปกป้องเขตแดนของตัวเอง รวมถึงความสนใจจากเจ้านายของเขา เขาเจ้าเล่ห์และมีอารมณ์ขันที่บูดเบี้ยว เขาเล่นมุขที่ไม่มีใครขำนอกจากตนเอง
ผู้กำกับพูดถึง ฟลัฟฟี่: ฟลัฟฟี่ เป็นตัวละครที่น่าสนใจ เขาเป็นมาสคอตของสังคมฮิปปี้ที่อาศัยอยู่แนวชายหาด เมื่อ แซมมี่ เดินทางมาถึง ฟลัฟฟี่ ก็รู้สึกคุกคามและต้องการกำจัดเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ด้วยการขับไล่เขาลงทะเลซึ่งเป็นที่ที่ แซมมี่ สมควรอยู่มากกว่า
-------------------------------บทสัมภาษณ์ เบน สแตสเซน (ผู้กำกับ) -------------------------------
อะไรคือแรงบันดาลใจของคุณ ในการเล่าเรื่องเต่าทะเลที่เดินทางรอบโลกตั้งแต่เด็กจนโต
หลายปีก่อน ผมไปพักผ่อนที่เม็กซิโกกับลูกชายวัยหกขวบ ในตอนเย็น เราก็เห็นพนักงานโรงแรมที่ช่วยขนย้ายไข่เต่าซึ่งกำลังฟักตัวจากเปลือกไข่ โดยแม่ของพวกมันได้มาวางไข่ไว้ริมชายหาด ซึ่งเป็นสถานที่ที่เธอถือกำเนิดเมื่อ 30 ปีที่แล้ว
ปัญหาก็คือเต่าเกิดพวกใหม่นี้ไม่สามารถฝ่ากระแสน้ำลงทะเลได้ พวกเรามองเห็นเต่าแรกเกิดเดินก้าวแรกสู่ทะเล แต่แล้วก็ถูกคลื่นซัดกลับมาเกยตื้นบนหาดครั้งแล้วครั้งเล่า พนักงานโรงแรมเล่าว่าเต่าพวกนี้จะอาศัยอยู่แถวชายทะเลในช่วง 10 ปีแรกของชีวิต โดยพวกมันถูกพัดพาโดยคลื่นในระยะทางที่ไกลจนไม่น่าเชื่อ โดยระหว่างที่เขาเล่านั้น ผมเห็นสีหน้าของลูกชายที่ตื่นเต้นกับเรื่องราวเต่าทะเล ผมก็รู้ทันทีว่ามันจะต้องเป็นอนิเมชั่น 3D ที่ยิ่งใหญ่แน่นอน
คุณมีการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตของเต่าทะเลมากแค่ไหน
พวกเราค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตของเต่าทะเลในขณะที่พัฒนาบทภาพยนตร์ รวมถึงในช่วงของการทำพรี-โปรดักชั่น โดยโลกอินเตอน์เน็ตถือเป็นแหล่งให้ข้อมูลที่สำคัญที่สุด พวกเราได้ดูสารคดีที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของมันทั้งใต้ทะเลและบนบก
แล้วการผจญภัยแบบไหนที่คุณต้องการให้ แซมมี่ ได้รับ
มีเต่าเพียงตัวเดียวจากไข่ทั้งหมด 1,000 ฟองที่จะมีชีวิตรอดเข้าสู่ช่วงวัยโต โดยเต่าทะเลแรกเกิดนั้นจะมีความยาวเพียง 5 เซนติเมตร ในขณะที่ แซมมี่ ฮีโร่ของพวกเราจะตัวเล็กกว่านั้นอีก มันมีโอกาสเพียงน้อยนิดที่เขาจะมีชีวิตรอด แต่เขาก็มีชีวิตรอด ผมต้องการจะเฝ้าติดตามเขาตั้งแต่ช่วงแรกเกิดจนถึงวัยโต โดยการผจญภัยของเขาจะเล่าถึงเรื่องราวของการเดินทางสู่การเป็นผู้ใหญ่ ตลอดการเดินทางเราก็จะได้พบกับตัวละครมากหน้าหลายตา หลายตัวที่จะโผล่มาเพียงแค่ครั้งเดียว เพราะ แซมมี่ ต้องเดินทางไปข้างหน้าเรื่อยๆ แต่ก็มีหลายตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในชีวิตของเขา และปรากฏตัวขึ้นในหลายสถานการณ์ โดยอีกสามตัวละครหลักก็คือ เรย์ และ เชลลี่ เต่าทะเลอีกสองตัว รวมถึงแมวที่ชื่อว่า ฟลัฟฟี่
คุณต้องการสร้างตัวละครให้ออกมาในรูปแบบไหน
ทุกครั้งที่ทาง nWave Pictures ทำอนิเมชั่นเรื่องยาวออกมา พวกเราต้องการผลักดันตัวเองให้สร้างสรรค์ภาพที่ดูสมจริงที่สุดเท่าที่ทำได้ แทนที่จะสร้างมาออกมาให้ดูเป็นการ์ตูน เราทำให้โลกใต้น้ำดูมีความสมจริงรวมถึงตัวละครที่สามารถจับต้องได้ แต่พวกเราก็ไม่ได้ต้องการที่จะสร้างสารคดี นี่คือหนังอนิเมชั่นครอบครัวที่สร้างความบันเทิง ดังนั้นลักษณะท่าทางรวมถึงใบหน้าของแต่ละตัวละคร เราก็ทำให้มันออกมามีความคล้ายมนุษย์อยู่บ้าง
อารมณ์แบบไหนที่คุณต้องการจากคนดูเมื่อพวกเขาได้ชมหนังเรื่องนี้
ผมหวังว่าผู้ชมจะอมยิ้มระหว่างการชม และหัวเราะอย่างบริสุทธิ์ใจไปกับบางสถานการณ์ ผมไม่ต้องการสร้างอนิเมชั่นที่เอาแต่ปล่อยมุข และดูดเอาความน่าเชื่อถือออกไปจากเรื่องราวจนหมด ผมพยายามสร้างให้มันมีคุณภาพเทียบเท่ากับการ์ตูนคลาสสิกของดิสนี่ย์อย่าง Bambi หรือ Fantasia โดยสิ่งที่ยอดเยี่ยมในการทำให้เป็นหนังสามมิติก็คือ มันช่วยดึงดูดให้คุณเข้าสู่โลกใต้น้ำได้อย่างรวดเร็ว โดยเทคโนโลยีสามมิติ REAL 3D จะมอบผลงานด้านภาพที่น่าทึ่ง พอๆกับเสียงหัวเราะที่จะเกิดขึ้น
อะไรคือสาระสำคัญที่คุณต้องการบอกใหักับผู้ชมรุ่นเยาว์
การใช้ชีวิตบนท้องทะเลกว่า 50 ปี มอบโอกาสให้เราตั้งคำถามเรื่องสภาพนิเวศวิทยา เช่นการทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์โลกใต้น้ำ อุณหภูมิที่สูงขึ้นจากการตัดไม้ทำลายป่า และการล่าสัตว์อย่างไม่คำนึงถึงอนาคต แน่นอนที่เราไม่มีคำตอบให้กับปัญหาเหล่านี้ แต่พวกเราก็อยากจะเตือนสติ โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้ชมในยุคนี้
เราพยายามแสดงให้เห็นถึงต้นเหตุและผลกระทบ เมื่อฮีโร่ของเราต้องเผชิญหน้ากับการรั่วของน้ำมัน เขาพบว่ามนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่ประหลาด บางคนเปลี่ยนทะเลให้เป็นสถานที่ทิ้งของเสีย ในขณะที่หลายคนก็พยายามทำความสะอาดมัน เช่นเดียวกันกับการล่าปลาวาฬ จะต้องมีคนที่ถือฉมวกและมีคนที่พยายามหยุดยั้งเสมอ
หลังจากที่คุณออกสำรวจอวกาศกับอนิเมชั่นสามมิติ Fly Me to The Moon ทำไมครั้งนี้คุณถึงเลือกสถานที่กว้างใหญ่ไพศาลไม่แพ้กันอย่างใต้ท้องทะเล
เทคโนโลยี 3D ถือเป็นการปฏิวัติทางภาพยนตร์ต่อจากการทำหนังพูดและหนังสี นี่คือพัฒนาการขั้นต่อไปของโลกภาพยนตร์ เมื่อคนดูได้สัมผัสกับหนังสามมิติ ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวก็จะเพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าจากหนังปกติ สำหรับผมแล้วในสถานี่อย่างห้วงอวกาศและใต้ท้องทะเล ที่ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีสามมิติ จะสามารถผลักดันจินตนาการของคนดูได้ไม่มีที่สิ้นสุด
การถ่ายทำอนิเมชั่นในระบบสามมิติ มีความท้าทายในเรื่องวิธีการสร้างบ้างไหม
การสร้างอนิเมชั่นในภาพแวล้อมที่เคลื่อนไหวตลอดเวลาอย่างน้ำ ถือเป็นความซับซ้อนที่มีความท้าทายที่สุด โดยทั้งเรื่องนี้เกิดขึ้นส่วนใหญ่ในท้องทะเล พวกเราพยายามสร้างโดยเล็งให้เห็นถึงความเข้าถึงคนทั่งโลก พวกเราพยายามอย่างเต็มที่กับเงินทุนที่มี ทีมงานทุกคนต้องทำงานกันอย่างหนัก ซึ่งสุดท้ายแล้วผมก็คิดว่าคนดูจะพอใจกับผลลัพท์
------------จากการปฏิวัติเทคโนโลยี สู่วิวัฒนาการขั้นสูงสุดของอนิเมชั่นสามมิติ-----------
nWave Pictures ก่อตั้งในปี 1994 โดย เบน สแตสเซน และ เอริค ดิลเลน เขาเล็งเห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าเทคโนโลยีสามมิติมีฐานคนดูที่หนาแน่น โดยเริ่มแรกนั้นเขาสร้างหนังสั้นสามมิติอย่าง Thrill Ride, Misadventure in 3D และ Alien Adventure โดยในปี 1996 Thrill Ride ก็ได้เป็นหนึ่งใน 50 หนังยอดเยี่ยมแห่งปี โดยอยู่ในอันดับทำเงินของอเมริกากว่า 70 สัปดาห์ และ SOS Planet ก็ยังมีผู้ชมกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก
วันนี้ nWave Pictures ถือเป็นผู้นำในเรื่องการสร้างหนังสามมิติโดยเฉพาะ ทั้งที่ฉายใน IMAX รวมถึงเครื่องเล่นในสวนสนุก โดยรายรับจาก IMAX ที่เป็นของ nWave Pictures ก็สูงถึง 200 ล้านเหรียญจนถึงปัจจุบัน
Fly Me to the Moon กำกับโดย เบน สแตสเซน ออกฉายทั่วโลกในปี 2008 ซึ่งเป็นอนิเมชั่นขนาดยาวเรื่องแรกของโลกที่ถ่ายทำในระบบสามิติ มันถือเป็นการปฏิรูปวงการหนังอนิเมชั่นสามมิติ ที่ถ่ายทำในระบบสองมิติแล้วค่อยทำการเปลี่ยนเป็นสามมิติ โดยการถ่ายทำ Fly Me to the Moon ก็กินเวลากว่า 2 ปี
เบน พูดถึงโปรเจ็คล่าสุดอย่าง Sammy's Adventures: The Secret Passage ว่า "ผมอยากให้ nWave Pictures เป็นสตูดิโอที่เชี่ยวชาญในการทำอนิเมชั่นสามมิติ ผมต้องการให้เราสร้างทุกอย่างด้วยตัวเองและจัดจำหน่ายไปทั่วโลกอย่างเป็นอิสระ นั้นก็คือเหตุผลที่เราต้องใช้เวลากว่า 2 ปีเพื่อที่จะทำให้ Sammy's Adventures, The Secret Passage เป็นอนิเมชั่นที่ออกมาจากแรงใจของพวกเรา"
------------------------เบน สแตสเซน กับวิวัฒนาการของเทคโนโลยี 3D------------------------
ในอดีตนั้นภาพยนตร์สามมิติเป็นแค่ลูกเล่นเพื่อดึงดูดคนดู ตั้งแต่หนังสยองขวัญในทศวรรษที่ 50 จนถึงหนังหายนะในช่วงทศวรรษที่ 70 โดยสาเหตุสำคัญที่หนัง 3D สมัยก่อนไม่ก้าวหน้า ก็เพราะผู้สร้างและผู้กำกับไม่ได้ตั้งใจศึกษาและให้ความสนใจในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างจริงจัง พวกเขาเห็นว่า 3D เป็นเพียงของเล่นราคาแพง ที่มอบความสนุกให้คนดู แต่ไม่ได้ช่วยเสริมสร้างเรื่องราวที่ถูกเล่า
เพื่อที่จะได้เข้าใจถึงการถือกำเนิดที่แท้จริงของภาพยนตร์สามมิติ ก็คงต้องย้อนไปกว่า 20 ปี เมื่อแฟนๆนับล้านต่างรอคิวเข้าแถวซื้อตั๋วชม Captain EO ภาพยนตร์สามมิติที่อำนวยการสร้างโดย ฟราสซิส ฟอร์ด คอปโปล่า ที่นำแสดงโดย ไมเคิล แจ็คสัน และกำกับโดย จอร์จ ลูคัส นี่คือหนัง IMAX สามมิติเรื่องแรกของโลกซึ่งเกิดขึ้นในปี 1986
ในการพัฒนาหนังสามมิติให้ประสบความสำเร็จ ผมคิดว่าผู้กำกับต้องเปลี่ยนมุมมองการทำหนังสามมิติใหม่ พวกเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง แน่นอนที่ตอนนี้ทางสตูดิโอไม่สามารถสร้างแต่หนังสามมิติได้ เพราะมันไม่มีจำนวนโรงฉายเพียงพอ แต่ในอนาคตเมื่อโรงหนังทั้งหมดฉายในระบบดิจิตัล หนังสามมิติก็จะมีความแพร่หลายมากขึ้น
ปัจจุบันความสนใจในหนังสามมิติกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะทำให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ที่คุ้มค่า ทั้งผลงานด้านภาพและอารมณ์ความรู้สึกกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ภาพยนตร์สามมิติที่แท้จริงจะมอบทั้งสองอย่างให้กับคุณ คุณจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ ไปพร้อมๆครอบครัวและผู้ชมทุกคนในโรงภาพยนตร์
ทีมพากย์
ยูริ โลเวนธัล (ให้เสียงเป็น แซมมี่)
ผลงาน (การเป็นนักพากย์) >>> Ben 10, Naruto: The Animation, Resident Evil: Degeneration, Wolverine and the X-Men, Afro Samurai
เจนนี แมคคาร์ธีย์ (ให้เสียงเป็น เชลลี่)
ผลงาน >>> Scary Movie 3, Scream 3, BASEketball, Two and a Half Men (ซีรี่ย์), Chuck (ซีรี่ย์)
แอนโธนี่ แอนเดอร์สัน (ให้เสียงเป็น เรย์)
ผลงาน >>> Transformers, Scary Movie 3 & 4, The Back-up Plan, Agent Cody Banks 2
ทิม เคอร์รี่ (ให้เสียงเป็น ฟลัฟฟี่)
ผลงาน >>> Charlie's Angels, The Secret of Moonacre, Scary Movie 2, Fly Me to the Moon 3D (ให้เสียง)
ทีมงาน
เบน สแตสเซน (ผู้กำกับ/อำนวยการสร้าง)
ผลงาน >>> Fly Me to the Moon 3D, S.O.S. Planet, Haunted Castle, Wild Safari 3D
โดโมนิก ปารีส (ผู้เขียนบท)
ผลงาน >>> Fly Me to the Moon 3D, The Sleepless, Splitz, Last Rites
เจโรม เอสโคบาร์ (ผู้ดูแลเรื่องวิชวลเอฟเฟ็ค)
ผลงาน >>> Happy Feet, Fly Me to the Moon 3D, The Boy Who Wanted to Be a Bear
รามิน จาวาร์ดี (ผู้แต่งเพลงประกอบ)
ผลงาน >>> Clash of the Titans, Iron Man, Fly Me to the Moon 3D