กรุงเทพฯ--16 ก.ย.--สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
อุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานที่สร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับประเทศไทย ในแต่ละปีประเทศไทยส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไปยังต่างประเทศปีละกว่า 2 แสนล้านบาท โดยส่งออกทั้งเส้นใย ด้าย ผ้าผืนและเครื่องนุ่งห่ม ทำให้ตลาดอุตสาหกรรมสิ่งทอฯไทยเติบโตในต่างชาติอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น จีน และออสเตรเลียที่เป็นประเทศคู่ค้าสำคัญ การแข่งขันที่รุนแรงส่งผลให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ เพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงไป และด้วยโลกธุรกิจยุคใหม่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับตัวตามให้ทัน ดั่งภาษิตนักรบของซุนวูที่ว่า “รู้เขา-รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” ดังนั้น การมีข้อมูลของประเทศคู่ค้ามากที่สุดจะเป็นหนทางสู่ความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืน
สหภาพยุโรป หรือ EU เป็นกลุ่มประเทศที่มีกำลังซื้อมหาศาล มีความโหดและหินเป็นอย่างยิ่ง โดย EU เป็นตลาดที่มีการตั้งกฎเกณฑ์และเงื่อนไขทางการค้ามากที่สุด การจะส่งสินค้าเข้า EU ได้ต้องผลิตสินค้าให้ได้คุณภาพและมาตรฐาน กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้จัดทำ “โครงการเครือข่ายอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม” โดยมอบหมายให้สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นเจ้าภาพดูแลโครงการนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ด้านมาตรฐาน กฎระเบียบโดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่จะส่งออกไปยังประเทศในกลุ่ม EU โครงการเครือข่ายฯ คือทางออกให้ผู้ประกอบการได้รับทราบข้อมูลเชิงลึก นำไปใช้ประโยชน์ในการปรับตัวไม่ว่าจะเป็นด้านการส่งออก การนำเข้า การตลาด การผลิต เทคโนโลยี ฯลฯ ต่อผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งข้อมูลที่มีส่วนสำคัญในการส่งออกคือ ข้อมูลด้านกฎระเบียบทางการค้าที่ถูกกำหนดขึ้นตามเงื่อนไขของกลุ่ม EUโดยมีข้อกำหนด กฎหมายและกฏระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน
นอกจากนี้สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอได้มีการปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยตลอดเวลา และทำการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวให้ผู้ประกอบการรับทราบในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2551 มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 54 รายซึ่งเป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มที่มีการส่งสินค้าไปยังสหภาพยุโรป เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งได้จัดประชุมกลุ่มย่อยเพื่อเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ปัญหาอุปสรรค และมาตรการกีดกันทางการค้าต่างๆให้กับผู้ประกอบการอื่นทราบ
นับได้ว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วโดยคาดว่าจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไปยังประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นปีละ 0.1 % การเอื้ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องหรือปัจจัยต่างๆที่ถูกกำหนดขึ้นในการส่งออกผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จึงมีความจำเป็นที่ผู้ประกอบการของไทยที่จะส่งสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไปยังตลาดสหภาพยุโรป ต้องศึกษาข้อมูลให้ลึกซึ้งเพื่อนำมาพัฒนาการกระบวนการผลิตและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของตนให้อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ประเทศผู้นำเข้าเป็นผู้กำหนด เพราะหากผู้ประกอบการไม่สามารถปรับตัวเองให้อยู่ภายใต้เงื่อนไขได้ ก็จะส่งผลให้ไทยสูญเสียตลาดส่งออกหรือประเทศคู่ค้าที่สำคัญไป การปรับตัวภายใต้โครงการนี้คือทางออกเพื่อความแข็งแกร่งที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย เป็นการเพิ่มโอกาสการบรรลุเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้าด้านสิ่งแวดล้อมแห่งอาเซียน (HUB สินค้าสิ่งแวดล้อมอาเซียน) ภายในปี 2560 ตามเป้าหมายของกระทรวงอุตสาหกรรมที่ได้กำหนดไว้ และที่สำคัญจะส่งผลต่อการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยนั่นเอง
การมีโครงข่ายถึงกัน คอยส่งสัญญาณความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงเป็นหนึ่งทางออกในการสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มอย่างยั่งยืน เสมือนการก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกัน ก้าวอย่างมีพลัง ก้าวอย่างสร้างสรรค์ ถือเป็นพลวัตรขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติให้แข็งแกร่งได้อีกทางหนึ่ง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2024371 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม