กรุงเทพฯ--7 มี.ค.--ธ.กสิกรไทย
กสิกรไทยนำเสนอนวัตกรรมทางการเงินใหม่ อนุมัติวงเงินสินเชื่อบ้านให้ล่วงหน้า ก่อนลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อบ้านจริง ในงาน Home Buyer’s Guide Fair พร้อมมอบดอกเบี้ยต่ำพิเศษและสิทธิประโยชน์มากมายจากโครงการพันธมิตร หวังเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ซื้อบ้าน พร้อมช่วยคัดลูกค้าให้โครงการพันธมิตร
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ และการตลาดสินเชื่อผู้บริโภค ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปีนี้ธนาคารกสิกรไทยมีแผนการนำเสนอบริการทางการเงินรูปแบบต่าง ๆ (Financial Solution) เพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของลูกค้ามากขึ้น ล่าสุดธนาคารกสิกรไทยได้เปิดให้บริการ “อนุมัติวงเงินให้ลูกค้าก่อนซื้อบ้าน” จาก K-Home Loan สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้านกสิกรไทยขึ้น ซึ่งบริการนี้จะช่วยให้ลูกค้าทราบความสามารถในการเลือกซื้อบ้านของตนเองได้ล่วงหน้า ช่วยขจัดความกังวลในสถานะทางสินเชื่อก่อนการเลือกซื้อได้
ทั้งนี้ลูกค้าที่ใช้บริการอนุมัติวงเงินให้ลูกค้าก่อนซื้อบ้านเมื่อตัดสินใจซื้อบ้านได้แล้ว ทางธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำพิเศษ ในกรณีที่ซื้อบ้านภายในงาน Home Buyer’s Guide Fair 2007 ที่จะจัดขึ้นที่เมืองทองธานี ระหว่าง 16-18 มีนาคม และโครงการบ้านทั่วไป ภายในวันที่ 30 เมษายน รวมทั้งจะได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ จากโครงการที่อยู่อาศัยที่เป็นพันธมิตรด้วย ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อขอลงทะเบียนได้ที่ K-Contact Center 0-2888-8888 กด 55 ตั้งแต่ บัดนี้ถึง 14 มีนาคมนี้เท่านั้น
นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับแล้ว บริการอนุมัติวงเงินให้ลูกค้าก่อนซื้อบ้านยังช่วยให้โครงการพันธมิตรได้รับลูกค้าที่มีศักยภาพ เพราะผ่านการคัดกรองจากทางธนาคารแล้ว และจะทำให้การดำเนินการหลังการขายเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น เนื่องจากบริการนี้จะช่วยลดระยะเวลาการดำเนินการด้านสินเชื่อของลูกค้า
นายชาติชายกล่าวว่า ปัจจุบันลูกค้าอาจจะมีภาระหนี้สินภาคครัวเรือนส่วนหนึ่ง ซึ่งสถาบันการเงินจะมีการคำนวณภาระดังกล่าวของลูกค้า โดยลูกค้าไม่ทราบรายละเอียดล่วงหน้า จึงไม่สามารถประเมินกำลังซื้อเบื้องต้นของตนเองได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นการเปิดบริการอนุมัติวงเงินให้ลูกค้าก่อนซื้อบ้าน จะทำให้ลูกค้าทราบความสามารถของตนเองว่าจะสามารถซื้อบ้านในราคาสูงที่สุดเท่าใด จึงจะสามารถผ่อนชำระได้โดยไม่เป็นภาระเกินตัว ทั้งนี้ธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อบ้านกสิกรไทยใหม่ในปี 2550 ที่ 18,000 ล้านบาท และเป็นยอดเพิ่มสุทธิจากปี 2549 ประมาณ 8,000 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 10%