กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง
กระทรวงการคลังเผย ผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในช่วง 11 เดือนแรกปีงบประมาณ 2553 ส่งผลให้รัฐบาลจัดเก็บรายได้ได้เกินเป้า ในขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐยังหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่อง และฐานะเงินคงคลังอยู่ในระดับที่เข้มแข็งมาก
นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง แถลงข่าวฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 11 เดือนแรก ปีงบประมาณ 2553 ว่ารัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1,467,145 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 20.7 โดยเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การจัดเก็บภาษีจากการบริโภคและการนำเข้าได้เพิ่มขึ้นมาก รวมทั้งได้รับรายได้จากการ ยึดทรัพย์ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จำนวน 49,016 ล้านบาท ในขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 1,591,709 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินงบประมาณ 124,564 ล้านบาท เมื่อรวมกับการขาดดุลเงินนอกงบประมาณ 8,001 ล้านบาท (สาเหตุหลักจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลังสุทธิ) ส่งผลให้ขาดดุลเงินสดรวม 132,565 ล้านบาท และรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 232,575 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้เกินดุลทั้งสิ้น 100,010 ล้านบาท โดยมีเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2553 จำนวน 393,845 ล้านบาท
นายสาธิตสรุปว่า “ฐานะการคลังของประเทศที่อยู่ในระดับที่เข้มแข็งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การดำเนินนโยบายการคลังเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของรัฐบาลมีความยืดหยุ่นมากขึ้น”