จอห์น-เป๊ก เวคคลับ” ชวนสาวเซอร์ “พั้นช์-วรกาญจน์” ตะลุยแดนทะเลทราย ขี่อูฐ ชมปิรามิด ตื่นตาตื่นใจจนลืมร้อน

ข่าวทั่วไป Friday May 25, 2007 13:59 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--จีเอ็มเอ็ม ทีวี
จอห์น-เป๊ก เวคคลับ” ชวนสาวเซอร์ “พั้นช์-วรกาญจน์” ตะลุยแดนทะเลทราย ขี่อูฐ ชมปิรามิด ตื่นตาตื่นใจจนลืมร้อน ในกิจกรรม “เมมมัวร์ ออฟ อียิปต์ วิธ เวคคลับ
มีกิจกรรมดีๆมาให้แฟนรายการได้ร่วมสนุกกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดรายการ “เวคคลับ” จาก จีเอ็มเอ็ม ทีวี ร่วมกับสปอนเซอร์ใจดีอย่าง ยินเลตต์ เวคเตอร์พลัส และ ช็อกโกแล็ตแท้ เอ็ม แอนด์ เอ็ม จัดกิจกรรม “เมมมัวร์ ออฟ อียิปต์ วิธ เวค คลับ”” ขึ้น โดยพาผู้โชคดีไปตะลุยแดนทะเลทราย ชมปิรามิด ขี่อูฐ และตื่นตะลึงกับศิลปะที่จัดเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกกันที่ ประเทศอียิปต์ โดยงานนี้นำทีมโดย 2 หนุ่มพิธีกร “เป๊ก-เปรมณัช” และ “จอห์น-วิญญู” เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีนักร้องสาวสวยเซอร์อย่าง “พั้นช์-วรกาญจน์”ร่วมทริปในครั้งนี้ด้วย
ลูกทัวร์คณะ “เมมมัวร์ ออฟ อียิปต์ วิธ เวค คลับ” นัดเจอกันแต่ไก่โห่ หกโมงเช้าที่ สนามบินสุวรรณภูมิ บินตรงไปที่เมืองโดฮา ประเทศบูรไน ก่อนจะต่อเครื่องไปลงที่ สนามบินเมืองอเล็กซานเดรีย เมืองท่าของประเทศอียิปต์ ซึ่งบวกลบคูณหารแล้ว ใช้เวลานั่งเครื่องบินกันร่วม 10 ชั่วโมง แต่เวลาที่อียิปต์นั้นช้ากว่าเมืองไทยของเรา 4 ชั่วโมง ทำให้ชาวคณะเดินทางไปถึงประมาณ 4 โมงเย็น ซึ่งพอไปถึงก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง
เริ่มเที่ยวกันเลย โดยเริ่มกันที่ มอนทาซ่า การ์เด้นท์ สถานที่ที่เอาไว้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองของประเทศอียิปต์ ซึ่งอากาศยามเย็นนั้นเย็นสบายเพราะแรงลม จากนั้นก็รับประทานอาหารค่ำกัน โดยมื้อนี้มีทั้งแผ่นแป้งคล้ายๆโรตี รวมทั้งปลาย่างที่มีกลิ่นเครื่องเทศอาหารแขกมาให้ลองลิ้มชิมรสกัน จากนั้นก็มุ่งตรงไปสู่โรงแรม ซึ่งคืนแรกพักกันที่ ฮิลตัน กรีน โฮเต็ล เพื่อเก็บแรงเอาไว้เที่ยวกันต่อในวันพรุ่งนี้ ซึ่งทุกคนถูกปลุกให้ตื่นกันแต่เช้าตรู่ เพราะวันนี้ เรามีนัดกันไปค้นหาคำตอบให้กับสิ่งมหัศจรรย์ของโลก กับ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติแห่งเมือง
อเล็กซานเดรีย ซึ่งรวบรวมศิลปะสมัยอัยคุปต์เอาไว้กว่า 40,000 ชิ้น จากนั้นก็เดินทางไปที่ คาตาคอมซ์ หรือหลุมฝังศพใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย ซึ่งน่าเสียดายที่ทั้ง 2 สถานที่ ไม่อนุญาตให้เก็บภาพใดๆ ทุกคนจึงได้แต่เก็บภาพด้วยตา และเซฟเอาไว้ในความทรงจำ และอดทึ่งไม่ได้กับความสามารถและความชาญฉลาดของชาวอียิปต์ จากนั้นเดินทางไปชม เสาปอมเปย์ โบราณสถานชิ้นสำคัญในสมัยที่โรมันปกครองอียิปต์ โดยเสาปอมเปย์นั้นเป็นเสาแกรนิตสูง 27 เมตร ซึ่งปอมเปย์นั้นเป็นชื่อเพื่อนสนิทของซีซ่า แต่ภายหลังทั้งคู่กลายเป็นศัตรู ปอมเปย์จึงหลบหนีมาที่เมืองอเล็กซานเดรียนี้ และที่นี่เอง ที่เล่ากันว่าซีซ่าได้ตามมาสังหาร และเผาศีรษะของปอมเปย์ที่เสาแห่งนี้
พักทานอาหารกลางวันเพื่อเอาแรงกันแล้ว ก็เดินทางกันต่อ โดยคราวนี้ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อเข้าสู่เมือง ไคโร เมืองหลวงของประเทศอียิปต์ ซึ่งระหว่างเดินทาง ทั้ง จอห์น, เป๊ก, พั้นช์ รวมทั้งน้องๆผู้โชคดี ก็งีบเอาแรงกันหัวสั่นหัวคลอน เพราะสภาพการจราจรที่นี่ จอแจยิ่งกว่าประเทศไทยหลายเท่า ซึ่งเมื่อเดินทางถึงเมืองไคโร สถานที่แรกที่เดินทางไปถึง ก็คือ ศูนย์กลางการทำกระดาษปาปิรัส กระดาษชนิดแรกของโลกที่ทำจากต้นกก ซึ่งในสมัยโบราณนั้นใช้เพื่อบันทึกข้อความสรรเสริญเทพเจ้า และบันทึกเหตุการณ์สำคัญๆในสมัยอียิปต์โบราณ จากนั้นก็เดินทางไปที่โรงงานผลิตน้ำหอม ที่เป็นหัวน้ำหอมแท้ๆ
ที่ชาวอียิปต์ส่งไปเป็นหัวน้ำหอมให้กับน้ำหอมยี่ห้อดังหลายต่อหลายยี่ห้อ รวมถึงขวดน้ำหอมทำมือ ที่ชาวอียิปต์ใช้วิธีการเป่าแก้ว หลังจากนั้นก็เดินทางเข้าโรงแรม โมเว็นปิค ปิรามิด รีสอร์ท ซึ่งจากที่พัก ก็จะมองเห็นปิรามิดอยู่ลิบๆอยู่ฝั่งตรงข้าม ทุกคนจึงเก็บความตื่นเต้น และพักเอาแรงเพื่อไปชมปิรามิดกันในวันรุ่งขึ้น
และวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เวลาประมาณ 8 โมงเศษๆ รถบัสก็เริ่มออกเดินทางเพื่อพาชาว
คณะ “เวค คลับ”นี้ไปสัมผัสกับทะเลทราย และชมกับความยิ่งใหญ่ อลังการและน่าทึ่งของปิรามิดกัน โดยเดินทางไปชมกันที่เมืองเมมฟิสกันก่อน โดยปิรามิดที่นี่ เป็นปิรามิดแบบพื้นเรียบ ซึ่งเมืองเมมฟิสนั้น เป็นเมืองหลวงเก่าแห่งแรกของอียิปต์เมื่อกว่า 5000 ปีก่อน เป็นเมืองที่ประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่ามีความสำคัญในการรวมอียิปต์ตอนบนและตอนล่างเข้าด้วยกันโดยกษัตริย์เมนา ซึ่งเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ที่ 1, มหาปิรามิดที่เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก, ปิรามิดขั้นบันได สถานที่ฝังศพของกษัตริย์ซอเซอร์ ซึ่งเป็นต้นแบบของปิรามิดในยุคต่อๆมา รวมถึง สฟริงค์ที่แกะสลักจากเนินหินธรรมชาติ ที่ส่วนหัวเป็นพระพักตร์ของฟาโรห์ ส่วนตัวเป็นสิงโต ซึ่งกำลังจมลงในทะเลทรายไปเรื่อยๆ ความชื้นจากน้ำท่วมใต้พื้นทราย ทำให้สฟริงค์ทรุดลงทุกปี ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง หากปล่อยไว้อย่างนี้ อีกไม่กี่สิบปี สฟริงค์คงเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของอียิปต์ที่เหลือเป็นตำนาน และหลังจากฟัง พี่หนุ่ย ไกด์หนุ่มรูปหล่อเล่าถึงประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งของปิรามิดแต่ละอันเรียบร้อยแล้ว ชาวคณะก็แยกวงกันไปถ่ายรูปกับปิรามิดอย่างสนุกสนาน เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่ใครจะได้มีโอกาสมาเห็นความยิ่งใหญ่ อลังการ และน่าทึ่ง แบบใกล้ๆจนมือสัมผัสได้แบบนี้ เท่านั้นยังไม่พอชาวคณะยังได้มีโอกาสนั่งขี่อูฐ กันอีกด้วย งานนี้ทั้ง จอห์น, เป๊ก, พั้นช์ พร้อมน้องๆผู้โชคดีผลัดกันถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน โดยมีท่ากระโดดเป็นไม้ตาย ที่ทำเอานักท่องเที่ยวกรุ๊ปอื่นๆ ยืนมองอมยิ้มกันเป็นแถว เชื่อว่าคงทึ่งในความบ้าพลังของวัยรุ่นไทยที่ตื่นตาตื่นใจกันจนลืมร้อนกันเลยทีเดียว
หลังจากตื่นตาตื่นใจกับปิรามิดกันไปแล้ว ทั้งคณะก็พักเอาแรงด้วยการทานอาหารกลางวัน ซึ่งมือนี้เป็นบาบิคิวแบบอียปิต์ มีทั้ง เนื้อวัว, เนื้อแกะ และ เนื้อไก่ ให้ลองชิม ซึ่งใครที่ชื่นชอบกลิ่นเครื่องเทศก็จะถูกปากเป็นพิเศษ เพราะอาหารแต่ละมื้อของที่นี่ใส่เครื่องเทศแทบทุกอย่าง หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาของการช้อปปิ้งกันบ้าง กับตลาด เอลคาลีลี ซึ่งมีของที่ระลึก และของพื้นเมืองให้เลือกซื้อมากมาย เป็นที่ถูกอกถูกใจของนักช้อปเพราะที่นี่ต่อรองราคาได้ แถมยังต้องต่อถึง 50-70% กันเลยทีเดียว นอกจากนี้บริเวณหน้าตลาดก็จะมีร้านน้ำชาตั้งเรียงราย เนื่องจากชาวอียิปต์ส่วนใหญ่จะเป็นชาวมุสลิม จึงไม่ดื่มของมึนเมา เครื่องดื่มยอดฮิตของที่นี่จึงเป็น ชามินต์ และ น้ำมะม่วง หลังจากช้อปปิ้งกันจนจุใจ ทั้งคณะก็เดินทางไปรับประทานอาหารค่ำ ซึ่งมื้อนี้ได้ขึ้นเรือชื่อ ไนล์ ฟาโรห์ รับประทานอาหารไปพร้อมๆกับชมบรรยากาศริมสองฝั่งแม่น้ำไนล์ แม่น้ำที่ได้ชื่อว่ายาวที่สุดในโลก ก่อนจะปิดทริปกันในวันรุ่งขึ้น ที่ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์ ซึ่งนอกจากบรรดาศิลปวัตถุโบราณล้ำค่า สุดตื่นตาตื่นใจและน่าทึ่ง อาทิ สมบัติต่างๆของฟาโรห์ตุตันคาเมน, ฟาโรห์รามเสสที่ 2 ไม่ว่าจะเป็น หน้ากาก, เตียงบรรทม, เก้าอี้บัลลังก์ทองคำ, เครื่องแต่งกาย, เครื่องประดับ ฯลฯ ที่ทั้งหมดเก่าแก่มีอายุกว่า 3300 ปีแล้ว ทั้งคณะยังได้มีโอกาสเข้าไปชมร่างมัมมี่ของจริงของกษัตริย์, มเหสี และขุนนาง ในสมัยอียิปต์โบราณหลายต่อหลายยุค เรียกว่าเจอกับบรรยากาศทึมๆ บวกกับความขลังของประวัติศาสตร์ของอียิปต์โบราณ ก็ทำเอาหลายๆคนที่เขาไปชม ขนลุกไปตามๆกัน จากนั้นก็เดินเท้ากันไปประมาณ 5 นาที เพื่อไปรับประทานอาหารกลางวัน ซึ่งมื้อสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องกลับเมืองไทย ทั้งคณะได้ลิ้มลองอาหารไทยของร้าน “บัวขาว” ร้านอาหารไทยโดยเจ้าของคนไทยที่มาเปิดอยู่ที่อียิปต์ ซึ่งรสชาติของน้ำพริกปลาทู, กะเพราไก่, ไข่เจียว ทำให้หลายๆคนหายคิดถึงอาหารไทยไปได้เลย
เรียกว่าไปทริปกับกิจกรรม “เมมมัวร์ ออฟ อียิปต์ วิธ เวค คลับ”ครั้งนี้ ทุกคนได้ทั้งความสนุกสนาน, ความตื่นตาตื่นใจ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอียิปต์อันน่าทึ่ง ส่วนครั้งหน้า “เวคคลับ”จะจัดกิจกรรมดีๆอะไร และพาไปเยือนสถานที่ที่น่าสนใจที่ไหนอีก ใครอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมดีๆแบบนี้ ก็ต้องติดตามรายการกัน ทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.55-11.50 น. ทาง ททบ.5
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ จีเอ็มเอ็ม ทีวี
โทร.02-669-8326-9
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ