กรุงเทพฯ--23 ก.ย.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานภาวะฝนตกหนักจากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านประเทศไทย ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยใน 11 จังหวัด 23 อำเภอ 112 ตำบล 445 หมู่บ้านได้แก่ เชียงราย น่าน สุโขทัย ลำพูน พิจิตร นครสวรรค์ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และนครราชสีมา ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 19,490 ครัวเรือน 48,575 คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 28,528 ไร่ ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน และลำพูน แต่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 8 จังหวัด ดังนี้ จังหวัดสุโขทัย น้ำในแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร ในอำเภอเมืองสุโขทัย รวม 6 ตำบล ได้แก่ ตำบลยางซ้าย ตำบลปากพระ ตำบลปากแคว ตำบลบ้านสวน ตำบลบ้านหลุม และตำบลตาลเตี้ย จังหวัดพิจิตร น้ำในแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำ ใน 4 อำเภอ 14 ตำบล ได้แก่ อำเภอสามง่าม อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอบึงนาราง และอำเภอโพทะเล จังหวัดนครสวรรค์ น้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มการเกษตรในอำเภอชุมแสง รวม 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลบางเคียน และตำบลโคกหม้อ พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 2,538 ไร่ จังหวัดชัยนาท น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรใน 5 อำเภอ 13 ตำบล 91 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 8,076 ครัวเรือน 18,084 คน จังหวัดสิงห์บุรีน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรในอำเภออินทร์บุรี 6 ตำบล ประชาชนได้รับ
ความเดือดร้อน 434 คน 124 ครัวเรือนจังหวัดอ่างทอง น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่อำเภอป่าโมกรวม 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลโผลเผงและตำบลบางเสด็จ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำน้อยเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มการเกษตรใน 5 อำเภอ รวม 54 ตำบล 297 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 13,977 คน 4,494 ครัวเรือน จังหวัดนครราชสีมา เกิดน้ำท่วมขังพื้นที่ตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมืองนครราชสีมา สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ประสบอุทกภัยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง