กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--กทม.
กรุงเทพมหานครดำเนินการอย่างต่อเนื่องสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ใน 3 เรื่อง คือ การรักษาแม่น้ำเจ้าพระยา ป่าชายเลน และสิ่งแวดล้อม
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกทม. เมื่อ 14 ส.ค.50 เกี่ยวกับการสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 ส.ค.50 ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 11 ส.ค.50 ว่า กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการตามแนวทางที่พระองค์ได้มีพระราชเสาวนีย์ ใน 3 เรื่อง คือ เรื่องการรักษาแม่น้ำเจ้าพระยา เรื่องป่าชายเลน และเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยการรักษาแม่น้ำเจ้าพะยานั้นกรุงเทพมหานครมีการตั้งคณะกรรมการอนุรักษ์และฟื้นฟูแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี 49 ซึ่งแบ่งคณะทำงานออกเป็น 4 คณะทำงานเป็นด้านๆ คือ 1.ฟื้นฟูสภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา 2.ปรับปรุงภูมิทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา 3.การพิจารณาข้อกฎหมาย และ 4.กระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดการสภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนั้นแล้วกรุงเทพมหานครยังได้ทำการตรวจวัดคุณภาพน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่องเพื่อนำผลที่ได้มาวางแผนจัดการ ส่วนการปรับปรุงคุณภาพน้ำนั้นได้เพิ่มการบำบัดน้ำเสียจากเดิม 20% เป็นกว่า 40% ของปริมาณน้ำเสียที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร และได้ศึกษาก่อสร้างเพิ่มอีกในอนาคตเพื่อให้การบำบัดครอบคลุมพื้นที่และจัดการน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพ และใน 3 ปีที่ผ่านมาได้กำหนดนโยบายจัดการน้ำในคลองที่เชื่อมโยงกับแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น โครงการ 10 คลองใสในปี 48 โครงการ 60 คลองใสในปี 49 และปีนี้โครงการ 80 คลองใส ซึ่งสิ่งสำคัญที่ดำเนินการอยู่คือการดึงประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการรักษา ดูแลสภาพน้ำในคูคลองและแม่น้ำเจ้าพระยา
ในเรื่องป่าชายเลน นั้น เนื่องจากกรุงเทพมหานครมีพื้นที่ป่าชายเลนจำนวน 2,735 ไร่ ได้ดำเนินการศึกษาร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เพื่ออนุรักษ์ป่าชายเลน ปลูกป่าอีก 1.5 แสนต้น และเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลนอย่างต่อเนื่อง นอกนั้นยังได้จ่างที่ปรึกษาศึกษาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน ซึ่งจะหาแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง โดยจะประสานการดำเนินการกับจังหวัดที่มีพื้นที่ติดต่อกันด้วยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานครได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างต่อเนื่อง ทั้งการปลูกต้นไม้ สร้างสวนสาธารณะเพิ่ม แจกจ่ายกล้าไม้ปีละ 1 ล้านกล้าแก่ประชาชน การปลูกต้นไม้บนถนนสายเดียวกันให้เป็นพันธุ์เดียวกัน ซึ่งใน 3 ปีที่ผ่านมาได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวอย่างเห็นเป็นรูปธรรม กล่าวคือจากการสำรวจในปี 47 กรุงเทพมหานครมีพื้นที่สีเขียว 8 พันไร่ ปัจจุบันเพิ่มขึ้นกว่า 30% โดยในปี 49 มีพื้นที่สีเขียว 2.4 ตารางเมตรต่อประชากร 1 คน ปี 50 มีพื้นที่สีเขียว 3.2 ตารางเมตรต่อประชากร 1 คน และตั้งเป้าหมายปี 51 ต้องพื้นที่สีเขียว 4 ตารางเมตรต่อประชากร 1 คน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จะได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อสนองแนวพระราชเสาวนีย์ของพระองค์ท่านในความห่วงใยสภาพแวดล้อมเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนต่อไป