กรุงเทพฯ--27 ก.ย.--IR PLUS
TNDT ถูกคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน Asia’s 200 Best Under a Billion ประจำปี 2553 ของนิตยสาร Forbes Asia "ชมเดือน ศตวุฒิ" เผยพร้อมทำงานหนักเพื่อผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต พร้อมย้ำมั่นใจครึ่งปีหลังผลประกอบการโตสวยกว่าครึ่งปีแรก หลังการเมืองนิ่งแถมลุยประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง เชื่อปั๊ม รายได้เข้าเป้า 360 ลบ.สำเร็จ
นางสาวชมเดือน ศตวุฒิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT ผู้ประกอบการธุรกิจตรวจสอบด้านวิศวกรรมความปลอดภัยด้วยวิธีไม่ทำลาย (Nondestructive Testing,NDT) ระดับแนวหน้าของไทย เปิดเผยหลังจากที่ บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งใน จำนวน 9 บริษัทจดทะเบียนไทย ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าไปอยู่ในการจัดอันดับ Asia’s 200 Best Under a Billion โดยนิตยสาร Forbes Asia ซึ่งค้นหาสุดยอดบริษัท 200 แห่งจากทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มียอดขายไม่เกิน 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ว่า คาดว่าสาเหตุที่บริษัทฯ ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน Asia’s 200 Best Under a Billion ในครั้งนี้ เพราะดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งธุรกิจดังกล่าวมีแนวโน้มเติบโตในทิศทางที่ดีและกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
" โดยส่วนตัวมองว่าเหตุผลหลักๆ ที่ได้รับการจัดอันดับในครั้งนี้ ทั้งๆ ที่ TNDT เป็นบริษัทเล็กๆ ยอดขายประมาณ 300 กว่าล้านบาท เพราะตอนนี้ธุรกิจกำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับความปลอดภัย ซึ่งในอนาคตบริษัทฯ จะพยายามทำงานให้ดีและหนักกว่าที่ผ่านมา ไม่ยอมหยุดอยู่กับที่ เพื่อผลักดันให้บริษัทฯ ก้าวไปข้างหน้าและเติบโตแบบยั่งยืน " นางสาวชมเดือน กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในครึ่งหลังของปี 2553 นางสาวชมเดือนกล่าวว่า มีโอกาสเติบโตในทิศทางที่ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองนิ่ง ส่งผลให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น สะท้อนให้ธุรกิจปรับตัวดีขึ้นในทิศทางเดียวกัน ประกอบกับบริษัทฯ ยังคงเดินหน้ารับงานใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น มาดากัสการ์ ลาว พม่า ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นประมูลงานใหม่ มูลค่ารวม 120 ล้านบาท โดยงานดังกล่าวแบ่งเป็นงานในต่างประเทศ 80% และงานในประเทศ 20% ขณะเดียวกันคาดว่าจะได้รับงานในสัดส่วน 50% ของมูลค่างานทั้งหมด ซึ่งจะทำให้รายได้จากงานในต่างประเทศภายในสิ้นปีนี้จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1-2% จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับไม่ถึง 5% ของรายได้รวม ส่วนปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่ 320 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้จะรับรู้รายได้จาก Backlog ดังกล่าวมูลค่า 150 ล้านบาท และที่เหลืออีก 140 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2554
ประกอบกับศูนย์บริการทดสอบและตรวจสอบด้านวิศวกรรมบริการที่จังหวัดระยอง ซึ่งปัจจุบันการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% คาดว่าอย่างช้าภายในเดือนพฤศจิกายน 2553 ศูนย์ดังกล่าวจะเสร็จเรียบร้อยสามารถให้บริการเชิงพาณิชย์ได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเป็นศูนย์ประสานงานหน่วยปฏิบัติการของบริษัทฯ
ตลอดจนเพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร รวมทั้งช่วยเพิ่มศักยภาพและความรวดเร็วในการให้บริการสามารถลดต้นทุนในการเดินทางและขนส่งได้เป็นอย่างดี รวมทั้งรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้อย่างคล่องตัวขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้รายได้รวมในปีนี้เป็นไปตาม เป้าหมายที่ 360 ล้านบาทได้สำเร็จ จากปีก่อนที่ทำได้ 295.09 ล้านบาท นอกจากนั้นยังช่วยผลักดันผลประกอบการของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคต
ทั้งนี้ ในปี 2553 มีบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยจำนวน 9 บริษัท ที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือกของนิตยสาร Forbes Asia ให้ติดอันดับ Asia’s 200 Best Under a Billion ซึ่งค้นหาสุดยอดบริษัท 200 แห่งจากทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่มียอดขายไม่เกิน1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากจำนวน 31 บริษัทในประเทศในกลุ่มอาเซียน 6 ประเทศ โดยที่เหลือมาจาก มาเลเซีย 9 บริษัท สิงคโปร์ 8 บริษัท ฟิลิปปินส์ 3 บริษัท อินโดนีเซีย 1 บริษัท และเวียดนาม 1 บริษัท โดยบริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) ถือเป็น 1 ใน 9 บริษัทฯ ของไทยที่ได้รับรางวัลดังกล่าว
ข้อมูลบริษัท บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT
บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จำกัด (มหาชน) หรือ TNDT ผู้ประกอบธุรกิจการตรวจสอบและทดสอบทางวิศวกรรมความปลอดภัย ด้วยกระบวนการทดสอบโดยไม่ทำลาย (Nondestructive Testing - NDT) ซึ่งเป็นวิธีการทดสอบเพื่อหาจุดบกพร่อง รอยแยก รอยรั่ว การปนเปื้อน ความผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อถูกกระทบโดยปัจจัยแวดล้อมและความไม่สมบูรณ์ของ วัสดุอุปกรณ์ ส่วนประกอบหรือโครงสร้างต่าง ๆ โดยที่ทั้งก่อน ขณะปฏิบัติการและภายหลังการทดสอบ จะไม่มีส่วนทำให้ชิ้นงานมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์หรือคุณสมบัติ
โดยตัวอย่างของการทดสอบด้วย NDT อาทิเช่น การตรวจสอบและทดสอบระบบความปลอดภัยต่อการ ใช้งานของอุปกรณ์ ระบบท่อลำเลียง น้ำมัน ก๊าซ สารเคมี ทั้งทางบกและทางทะเลภาชนะรับแรงดันสูง อาทิเช่น ถังบรรจุก๊าซ NGV (Natural Gas Vehicle) LPG (Liquid Petroleum Gas) หม้อต้มไอน้ำ(Boiler) รวมถึงการตรวจสอบและทดสอบโครงสร้างโลหะเหล็กขนาดใหญ่ ซึ่งกลุ่มลูกค้าโดยส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นกลุ่มลูกค้าภายในประเทศ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตปิโตรเลียม ซึ่งได้แก่ การผลิตและสำรวจน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมก่อสร้าง เป็นต้น
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
IR PLUS : คุณปภาดา สุวรรณกูฏ (ตุ้ย) Tel. 02-5549396 , E-mail : phapada@irplus.in.th