โรงงานน้ำตาลเร่งหนุนชาวไร่กู้ซื้อรถตัดอ้อย หลัง ครม. อนุมัติ ธ.ก.ส. ปล่อย 3,000 ล้าน ผู้กู้จ่ายดอกเบี้ยแค่ 2%

ข่าวทั่วไป Tuesday September 28, 2010 13:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ก.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ โรงงานน้ำตาลเร่งเดินหน้าหนุนโครงการสินเชื่อซื้อรถตัดอ้อย หลัง ครม. อนุมัติหลักการให้ ธ.ก.ส. ปล่อยสินเชื่อ 3,000 ล้านบาท ที่อัตราดอกเบี้ย MRR-2% ชาวไร่อ้อยผู้กู้จ่ายแค่ 2% ที่เหลือรัฐจ่ายชดเชยให้ หวังแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้และการขาดแคลนแรงงานในการตัดอ้อยสด ช่วยเพิ่มคุณภาพอ้อย สร้างความมั่นคงให้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายในระยะยาว แจงชาวไร่ได้ประโยชน์เต็มๆ เพราะหากส่งอ้อยไฟไหม้เข้าโรงงาน นอกจากจะสูญเสียน้ำหนักแล้ว ยังถูกตัดราคารับซื้ออีก นายประกิต ประทีปะเสน ประธานคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการโครงการสินเชื่อสำหรับการจัดซื้อรถตัดอ้อย เพื่อแก้ปัญหาอ้อยไฟไหม้และการขาดแคลนแรงงานตัดอ้อย ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งหนึ่งในเงื่อนไขของการอนุมัติสินเชื่อดังกล่าว โรงงานน้ำตาลทรายจะต้องเป็นผู้ค้ำประกันหนี้ให้แก่ชาวไร่อ้อย กลุ่มชาวไร่อ้อย สหกรณ์ชาวไร่อ้อย หรือสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) ที่มาขอสินเชื่อ หรือหากโรงงานน้ำตาลเป็นผู้ขอสินเชื่อเอง ต้องมีคณะกรรมการของโรงงานน้ำตาลและหรือบุคคลที่ ธ.ก.ส.พิจารณาเห็นชอบเป็นผู้ค้ำประกันอย่างน้อย 2 คน “ผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลพร้อมสนับสนุนโครงการนี้เต็มที่ โดยได้พยายามผลักดันมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะเชื่อว่า เป็นประโยชน์กับชาวไร่อ้อยอย่างมาก เนื่องจากการนำอ้อยไฟไหม้มาส่งให้โรงงานน้ำตาล ชาวไร่อ้อยจะต้องถูกตัดราคารับซื้อ อีกทั้งยังสูญเสียน้ำหนักมากกว่าอ้อยสด ในด้านของโรงงานก็ได้รับผลกระทบจากสิ่งปนเปื้อนจำนวนมากที่ติดมากับอ้อยไฟไหม้ ดังนั้น การแก้ปัญหานี้จะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยให้ดีขึ้นได้” นายประกิต กล่าว สำหรับรายละเอียดของโครงการสินเชื่อรถตัดอ้อยนั้น ธ.ก.ส. จะสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อปีละ 1,000 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี รวม 3,000 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อรถตัดอ้อยต่อราย หรือต่อกลุ่มภายในวงเงินไม่เกิน 15 ล้านบาท กำหนดชำระหนี้ภายใน 6 ปีนับจากวันกู้ โดยผู้กู้จ่ายดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 2 ต่อปี จากอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ที่ MRR-2.00 ต่อปี ส่วนต่างที่เหลือรัฐบาลจะเป็นผู้รับภาระชดเชยให้ ทั้งนี้หากคิดจากอัตราดอกเบี้ย MRR ปัจจุบันที่ 6.75% ต่อปี ธ.ก.ส. คิดอัตราดอกเบี้ยตามโครงการนี้ 4.75% (MRR-2.00) ผู้กู้จ่ายดอกเบี้ย 2.00% รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยส่วนต่างอีกร้อยละ 2.75 ต่อปี ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่รัฐบาลต้องชดเชยตลอดระยะเวลาโครงการ รวมทั้งสิ้นประมาณ 288.75 ล้านบาท นายประกิตกล่าวด้วยว่า ในเรื่องของการเผาอ้อยหรืออ้อยไฟไหม้นั้น ได้มีการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (ส่วนพัฒนาการผลิต) สรุปได้ว่า แม้การเผาอ้อยก่อนตัดจะทำให้สะดวกในการเก็บเกี่ยว แต่ก่อให้เกิดผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลในหลายด้าน กล่าวคือ ทำให้สูญเสียน้ำหนักมากกว่าอ้อยสด, หากทิ้งไว้ในไร่เกิน 3 วัน จะสูญเสียความหวาน, ตออ้อยตายมากกว่าอ้อยสด และหนอนกอเข้าทำลายได้ง่าย, มีวัชพืชขึ้นมากกว่า เพราะไม่มีใบคลุมดิน และสูญเสียอินทรีย์วัตถุในดิน, ในการขายให้โรงงานจะถูกตัดราคา และอาจมีปัญหาการค้าน้ำตาลในตลาดโลกในอนาคต, มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อากาศ สุขภาพ, สูญเสียน้ำตาลในอ้อย ทำให้ผลผลิตน้ำตาลต่ำ, ทำให้น้ำอ้อยมี Dextran มากกว่าอ้อยสด อันส่งผลให้เกิดความยุ่งยากในกระบวนการผลิตน้ำตาล เช่น การทำใส การกรอง การต้มเคี่ยว การตกผลึกน้ำตาลช้ากว่าปกติ ทั้งนี้ โรงงานน้ำตาลจะเร่งแจ้งข่าวสารให้กับชาวไร่อ้อยในแต่ละพื้นที่ทราบ เพื่อจะได้ดำเนินการขอสินเชื่อเพื่อจัดซื้อรถตัดอ้อยมาใช้ในการจัดเก็บอ้อยสดให้ทันต่อการเปิดหีบอ้อยประจำปี 2553/2554 ในปลายปีนี้ อนึ่ง บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด เป็นองค์กรช่วยส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของประเทศไทย ด้วยข้อมูลข่าวสาร การวิเคราะห์อย่างถูกต้อง และการสื่อสารความจริงให้สังคมและภาครัฐได้ร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมฯ อย่างยั่งยืน ประชาสัมพันธ์โดยบริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด ในนามบริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ วารุณี คำไชย (แนน) โทร. 0-2248-7967-8 ต่อ 119

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ