กรุงเทพฯ--2 ก.พ.--ปภ.
กรมป้องกันฯ เตือนเกษตรกรให้ระวังภัยจากน้ำค้างแข็ง สร้างความเสียหายแก่พืชผลทางเกษตรในช่วงสภาพอากาศหนาวเย็น ควรสร้างสิ่งปกคลุมป้องกันน้ำค้างแข็ง รวมทั้งระมัดระวังโรคระบาดในสัตว์ช่วง
ฤดูหนาว
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า สภาพอากาศในช่วงสัปดาห์นี้จะหนาวเย็นมากขึ้น และคาดว่าความกดอากาศสูงระลอกใหม่จะแผ่ลงมาเสริมอีก ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2550 ทำให้ประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นต่อไป กับมีน้ำค้างแข็ง ขึ้นตามยอดดอย โดยเฉพาะทางภาคเหนือของประเทศ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอเตือนประชาชนโดยเฉพาะเกษตรกรให้ระมัดระวังน้ำค้างแข็ง สร้างอันตรายและความเสียหายกับพืชผลทางการเกษตร เช่น จะทำให้ข้าวที่กำลังออกรวงมีเมล็ดลีบ พืชไร่ชะงักการเจริญเติบโต พืชผักใบจะหงิกงอไหม้เกรียม กล้วย มะพร้าว และทุเรียน ใบจะแห้งและร่วง ซึ่งจะสร้างความเสียหายมากขึ้น หากเกิดน้ำค้างแข็งติดต่อกันหลายวัน ดังนั้น เกษตรกรควรสร้างสิ่งปกคลุมป้องกันน้ำค้างแข็ง โดยให้นำพลาสติกมาหุ้มพืชผลที่กำลังออกดอกออกผลหรือ
กางมุ้งปกคลุมทั้งต้นไว้ เพื่อป้องกันมิให้ไอน้ำในอากาศกลั่นตัวเป็นหยดน้ำเกาะตามพืชผล นอกจากนี้ยังพบว่า น้ำค้างแข็งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน หากมีน้ำค้างแข็งเกาะอยู่บนผิวถนนที่เปียก หรือตามถนนที่เป็นหลุม เป็นบ่อ หรือเป็นแอ่ง ก็จะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ นอกจากนี้ เกษตรกรควรระมัดระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่เกิดจากแมลง และสัตว์ปีก เช่น ไข้หวัดนก เพราะเชื้อโรคสามารถแพร่พันธุ์ได้ดีในช่วงฤดูหนาว และควรระมัดระวังการการเกิดไฟป่า อันเกิดจากการจุดไฟเผาหญ้า เพราะอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ลุกลาม รวมทั้งควันไฟอาจทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ของผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ดี ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุกับผู้ใช้รถใช้ถนนได้ และยังทำให้ดินสูญเสียความชุ่มชื้นและอินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อดินได้ สุดท้ายนี้ เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว เกษตรกรควรเพิ่มความเอาใจใส่และดูแลพืชผลที่ตนเองปลูกไว้ให้มากขึ้น รวมทั้งควรร่วมกันตรวจตรา หากพบสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับพืชผลในไร่สวนของตนเอง ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เกษตรที่อยู่ในพื้นที่ทราบทันที และเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาให้ทางราชการทราบ เพื่อจะได้หาวิธีป้องกันและแก้ไขปัญหาได้ถูกต้องและเร่งด่วนต่อไป