กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--ลลิล พร็อพเพอร์ตี้
ลลิลพร็อพเพอร์ตี้ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 2 มี รับรู้รายได้จากการขาย 214.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.11 % เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และมีกำไรสุทธิ 22.86 ล้านบาท มีรายได้รวมในครึ่งปี 2550 ทั้งสิ้น 426.32 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 50.93 ล้านบาท ในขณะที่บริษัทมีสินทรัพย์สุทธิ 4,464.22 ล้านบาท หนี้สินสุทธิ 1,176.83 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 3,287.39 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) 0.36 เท่า ซึ่งแสดงถึงฐานะทางการเงินที่เข็งแกร่ง และความสามารถที่จะขยายธุรกิจในอนาคตเมื่อต้องการ และมีการจ่ายปันผลระหว่างการ 0.025 บาท โดยมีวันขึ้นทะเบียนรับสิทธิในเงินปันผลวันที่ 27 สิงหาคม 2550 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 กันยายน 2550
นายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการฯ กล่าวว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง อันเนื่องมาจากปัจจัยทางด้านการเมือง ภาวะราคาน้ำมัน และภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น และกำลังซื้อที่ลดลง ตลอดจนค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ธุรกิจส่งออกเกิดปัญหาถึงขั้นปิดโรงงาน วึ่งยิ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ตลอดจนปัญหาสินเชื่อซับไพร์มของอเมริกา ทำให้กระทบต่อตลาดทุน และตลาดเงินทั่วโลก จะเป็นปัจจัยภายนอกที่กระทบต่อเศรษฐกิจอีกระลอกด้วย
ดังนั้นพอกล่าวสรุปได้ว่าในช่วงที่ผ่านมานี้นั้นเป็นช่วงที่จัดได้ว่า ปัจจัยลบต่างได้เข้ามากระทบภาคเศรษฐกิจของประเทศทั้งในรูปแบบทางทางตรงและทางอ้อม
สำหรับธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์แล้วนั้นจะพบว่าการเกิดใหม่ของธุรกิจคอนโดมิเนียมเพื่อการอยู่อาศัยยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ธุรกิจบ้านเดี่ยวนั้นปรับตัวลดลงตามสภาวะที่แท้จริงของเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่าธุรกิจของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ก็น่าจะดำเนินการอย่างระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งและให้คำนึงถึงการมีเสถียรภาพมากขึ้น
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้เตรียมพร้อมที่จะดำเนินธุรกิจให้เจริญเติบโตต่อไป แต่ในช่วงนี้ยอมรับว่ายากมากขึ้น ดังนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ความพยายามมากขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรง สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญคือเน้นการบริหารความเสี่ยงและควบคุมต้นทุนการบริหารงานให้มากที่สุด และเน้นประสิทธิภาพในการบริการด้วยเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และคาดการณ์ว่าในช่วงปลายปี 2550 หรือต้นปี 2551 ธุรกิจอสังหาฯน่าจะปรับตัวดีขึ้นได้ โดยแนวโน้มที่ลดลงของอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มมีผลที่ดีกับผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน และ ความชัดเจนมากยิ่งขึ้นทางการเมืองหลังการลงมติรับรัฐธรรมนูญใหม่ในเดือน สิงหาคมนี้
สำหรับในช่วงปีนี้นั้น บริษัทฯมีการฉลองก้าวสู่ปีที่ 20 ในโครงการที่เปิดขายอยู่ทั้ง 24 โครงการ ใน 5 ทำเล ของกรุงเทพฯ โดยแคมเปญจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 2 — 31 สิงหาคม 2550 ซึ่งลูกค้าที่ตัดสินใจซื้อบ้านในช่วงดังกล่าวจะได้รับข้อเสนอพิเศษเป็นบัญชีเงินฝากพิเศษสูงถึง 300,000 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษของแต่ละโครงการอีกด้วย