ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของธนาคารกรุงเทพ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 29, 2010 15:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ก.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารกรุงเทพ (BBL) ที่ ‘BBB+’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ รายละเอียดอันดับเครดิตแสดงอยู่ด้านล่าง อันดับเครดิตของ BBL สะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจในประเทศและระดับภูมิภาคที่แข็งแกร่ง ผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งสถานะเงินกองทุนและฐานเงินฝากที่มั่นคงของธนาคาร อย่างไรก็ตามสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าธนาคารอื่นในภูมิภาค แม้ว่าสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานจะมีความอ่อนแอและมีเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การทำกำไรของ BBL ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับค่อนข้างคงที่ ฟิทช์คาดว่าผลการดำเนินงานของ BBL จะยังคงแข็งแกร่งโดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจของประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้น ฟิทช์ได้มีการปรับคาดการณ์การเติบโตของ GDP ของประเทศไทยเป็น 7.2% ในปี 2553 และ 4.3% ในปี 2554 แม้ว่าการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจะยังคงเป็นจุดแข็งของ BBL โดยมีสัดส่วน 41% และ 28% ของสินเชื่อรวมตามลำดับ คาดว่าสินเชื่อรายย่อยซึ่งมีสัดส่วนเป็น 13% จะมีการเติบโตอย่างสูงในระยะปานกลาง นอกจากนี้ธนาคารยังได้ประโยชน์จากการปล่อยสินเชื่อในต่างประเทศ โดยเฉพาะในจีน ฮ่องกง สิงค์โปร์ และไต้หวัน ซึ่งมีสัดส่วน 18% ของสินเชื่อรวม คุณภาพสินทรัพย์อยู่ในระดับคงที่ แม้ว่าสินเชื่อที่จัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในครึ่งแรกของปี 2553 (2.6% ของสินเชื่อ) สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ณ สิ้นเดือน มิถุนายน 2553 ลดลงมาอยู่ที่ 55.1 พันล้านบาท (4.7% ของสินเชื่อรวม) จาก 55.6 พันล้านบาท (4.9%) ณ สิ้นปี 2552 แต่ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าธนาคารอื่นในภูมิภาค เนื่องจากสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540-2542 สำรองหนี้สงสัยจะสูญของธนาคารซึ่งอยู่ในระดับสูงที่ 71 พันล้าน หรือ 127.9% ของสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือน มิถุนายน 2553 ช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าว นอกจากนี้ BBL ยังมีสภาพคล่องที่แข็งแกร่งเนื่องจากเครือข่ายการให้บริการเงินฝากที่มั่นคงและเป็นหนึ่งในธนาคารที่มีจำนวนสาขามากที่สุด โดยมีการพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากตลาดทุนค่อนข้างน้อย BBL มีสถานะเงินกองทุนที่ยังคงแข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 12.9% และอัตราส่วนเงินกองทุนรวมอยู่ที่ 15.9% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 อัตราส่วนส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์อยู่ที่ 12.1% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 เนื่องจากขนาดและความสำคัญของ BBL ต่อระบบการเงินและเศรษฐกิจ ฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล หากมีความจำเป็น อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวปัจจุบันอยู่สูงกว่าอันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศของประเทศอยู่ 1 อันดับและอยู่ในอันดับเดียวกันกับเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย เนื่องจากความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวธนาคาร และความสามารถในการรองรับผลกระทบจากปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินงานของธนาคารที่ปรับตัวตัวอ่อนแอลงอย่างรุนแรง รวมทั้งการถือครองพันธบัตรรัฐบาลที่ยังอยู่ในระดับไม่สูง (13% ของสินทรัพย์รวม ณ สิ้นเดือน มิถุนายน 2553) และการที่มีการถือหุ้นโดยรัฐบาลในจำนวนที่จำกัด ทั้งนี้หากสถานะทางการเงินมีการปรับตัวอ่อนแอลง หรือมีการปรับลดเพดานอันดับเครดิตของประเทศไทย จะส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคาร ในขณะเดียวกันการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของผลกำไรและคุณภาพสินทรัพย์เทียบกับธนาคารอื่นในภูมิภาค และความสามารถในการรักษาระดับเงินกองทุนและสภาพคล่อง อาจมีผลในเชิงบวกต่ออันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน BBL เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่ง 17% ของตลาดสินเชื่อ และ 19% ของตลาดเงินฝาก ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2553 ธนาคารถูกก่อตั้งในปี 2487 โดยตระกูลโสภณพนิช ซึ่งสัดส่วนการถือหุ้นได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่วิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจปี 2540 โครงสร้างการถือหุ้นใน BBL ในปัจจุบันมีการกระจายตัวสูง โดยผู้ถือหุ้นต่างชาติ(ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบัน) มีสัดส่วนประมาณ 49% BBL มีสาขา 968 สาขาในประเทศ และ 15 สาขาในต่างประเทศซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย และมีบริษัทลูกซึ่งประกอบธุรกิจด้านหลักทรัพย์และธุรกิจบริหารกองทุน ฟิทช์คงอันดับเครดิตดังต่อไปนี้: อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวที่ ‘BBB+’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นที่ ‘F2’ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ ‘C’ อันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘2’ อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำที่ ‘BBB-’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AA(tha)’ แนวโน้มมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+(tha)’ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกันที่ ‘BBB+’ อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ ‘BBB’ อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ ‘AA-(tha)’

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ