กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--ธนาคารธนชาต
“ฝากประจำพิเศษ 5 เดือน” ดอกเบี้ย 2%ต่อปี และ “ตั๋วแลกเงินพิเศษ 5 เดือน” ดอกเบี้ย 2.1%ต่อปี
ธนาคารธนชาต และธนาคารนครหลวงไทย รุกพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความหลากหลายและเป็นทางเลือกที่ดีแก่ผู้ต้องการลงทุนและออมเงิน ออกผลิตภัณฑ์ 2 ประเภท ทั้งเงินฝากประจำพิเศษ 5 เดือน ดอกเบี้ย 2%ต่อปี และตั๋วแลกเงินพิเศษ 5 เดือน ดอกเบี้ย 2.1% ต่อปี เหมาะกับผู้ฝากเงินและนักลงทุนในปัจจุบันที่ต้องการพักเงินไว้สำหรับรอดูทิศทางดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากระยะเวลาการฝากไม่นานมาก
นายประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารฯ มีนโยบายในการพัฒนา และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้มีความหลากหลายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำเสนอบริการด้านเงินฝากและการลงทุนให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า เนื่องจากในปัจจุบันทิศทางดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น และยังมีการแข่งขันในธุรกิจเงินฝากของระบบธนาคารพาณิชย์ เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ธนาคารธนชาต และธนาคารนครหลวงไทย จึงได้ร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านเงินฝาก และการลงทุน โดยได้ออก ผลิตภัณฑ์ 2 ประเภท ทั้งเงินฝากประจำพิเศษ 5 เดือน และตั๋วแลกเงินพิเศษ 5 เดือน ซึ่งจะเหมาะกับผู้ฝากเงินและนักลงทุนในปัจจุบันที่ต้องการพักเงินไว้สำหรับรอดูทิศทางดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากระยะเวลาการฝากไม่นานมาก
โดย เงินฝากประจำพิเศษ 5 เดือน ธนาคารฯเสนอดอกให้เบี้ยสูงถึง 2% ต่อปี สำหรับทุกยอดเงินฝาก เปิดบัญชีขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท และจะจ่ายดอกเบี้ยให้ทุกเดือน โดยจ่ายตั้งแต่เดือนแรกที่เปิดบัญชี และจ่ายให้ทุกเดือนจนครบกำหนด กรณีฝากตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ครบกำหนด จะได้รับดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่ฝากไว้จริง ในอัตราดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี
สำหรับ ตั๋วแลกเงินพิเศษ 5 เดือน จะ ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 2.1 % ต่อปี ลงทุนขั้นต่ำเพียง 100,000 บาทและจ่ายดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนแรกที่ลงทุน โดยจะจ่ายให้ทุกเดือนจนครบกำหนด กรณีไถ่ถอนก่อน 2 เดือน จะไม่ได้รับดอกเบี้ย กรณีลงทุนฝากตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ครบกำหนด จะได้รับดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่ฝากไว้จริง ในอัตราดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ ทั้ง 2 ประเภท สามารถเปิดบัญชีได้ตั้งแต่วันนี้ที่ธนาคารธนชาต หรือ ธนาคารนครหลวงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ
นายประพันธ์ กล่าวอีกว่า ในระหว่างที่ธนาคารธนชาต และธนาคารนครหลวงไทยอยู่ในกระบวนการควบรวมกิจการ จะประสานความร่วมมือด้านธุรกิจระหว่างกันในการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลายและครบวงจรแก่ลูกค้าควบคู่ไปด้วยกันอย่างตลอดเวลา เพื่อเป็นการตอกย้ำแนวคิด “ทะยานไกลไปด้วยกัน” หรือ “Growing Together” รวมทั้งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและตั้งใจของคณะผู้บริหารธนาคารในการที่จะผลักดันการให้บริการที่สะดวกและรวดเร็วเพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าเป็นสำคัญ