กรุงเทพฯ--30 ก.ย.--สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
องค์กรสื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อวิปฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้าน ขอให้เร่งรัดผลักดัน พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ และขอให้มีตัวแทนสื่อเข้าไปมีส่วนร่วมใน กมธ. ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ลงมติตั้ง กมธ.ร่วม 2 สภาฯ 22 คน พร้อมเสนอรายชื่อกรรมาธิการร่วม ฝ่ายสภาผู้แทนราษฎร 11 คน
นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ในนามคณะกรรมการพัฒนาส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความรับผิดชอบของสื่อ (คพส) ซึ่งประกอบด้วยกรรมการที่มาจากองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนได้แก่ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และ นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี อุปนายกสมาคมฝ่ายต่างประเทศ ได้เข้ายื่นข้อเรียกร้องต่อนายวิทยา แก้วภราดัย ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เรื่อง ขอให้เร่งรัดผลักดันพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ โดยเสนอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่รับร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ที่แก้ไขโดยวุฒติสภา เพื่อให้มีตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 2 สภาขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง และขอให้มีตัวแทนสื่อมวลชนเข้าไปมีส่วนร่วมในคณะกรรมาธิการร่วม 2 สภาที่จะตั้งขึ้น
ด้านนายวิทยา กล่าวต่อไปว่า วิปรัฐบาลเห็นด้วยกับ 3 ประเด็น ที่องค์กรสื่อได้เสนอมา โดยจะให้มีการพิจารณาแก้ไข 23 มาตรา ให้เสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ และสนับสนุนที่จะให้มีการตั้งกรรมาธิการร่วมเพื่อศึกษาเรื่องดังกล่าว โดยสัดส่วนในการตั้งคณะกรรมาธิการ 22 คน มีพรรคประชาธิปัตย์ 4 คน ซึ่งได้จัดบุคคลลงไว้เต็มหมดแล้ว ดังนั้น การที่ตัวแทนสื่อจะเสนอให้มีการตัวแทนวิชาชีพสื่อเข้าร่วมเป็นกรรมาธิการร่วมนั้น ตนจะนำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับทางพรรคเพื่อแผ่นดิน และพรรคภูมิใจไทยว่าจะแบ่งสัดส่วนมาได้หรือไม่
จากนั้นเมื่อเวลา 10.30 น. นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ ได้ยื่นหนังสือและเข้าพบ นายวิทยา บูรณะศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน โดยประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า วิปฝ่ายค้านให้ความสนใจและให้ความสำคัญในการปฏิรูปสื่อ อย่างไรก็ตามในส่วนของการตั้งกรรมการเพื่อพิจารณาร่างกฎหมาย เบื้องต้นมีความเป็นไปได้ที่จะให้องค์กรวิชาชีพสื่อเข้ามามีส่วนร่วม แต่อาจจะเป็นในรูปแบบของที่ปรึกษา หรือคณะอนุกรรมการ ส่วนเรื่องการผ่านร่างกฎหมาย ตนเชื่อว่าจะผ่านให้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ต้องมีความรัดกุม
สำหรับที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้มีการพิจารณาและอภิปรายร่างพ.ร.บ.จัดสรรคลื่นความถี่และกำกับดูแลวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาค (กสทช.) ที่วุฒิสภาพิจารณาแก้ไข ไปเมื่อวันพฤหัสที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา และได้มีการปิดการประชุมไปก่อนจะมีการลงมติ ซึ่งทำให้การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 29 ก.ย.นี้ เมื่อเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม ได้มีการลงมติร่างพ.ร.บ.กสทช.ทันที โดยที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยกับวุฒิสภาแก้ไขด้วยเสียง 296 ต่อ 0 งด 2 ไม่ลงคะแนน 18
จากนั้นนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้หารือว่า จะทำอย่างไรจะให้ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวตกไป หรือจะให้ตั้งคณะกรรมการร่วมกันระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ซึ่งนายธนิพล ไชยนันท์ ส.ส.ตาก พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ตั้งคณะกรรมการร่วมกันจำนวน 22 คน