กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--ทีคิวพีอาร์ (ประเทศไทย)
เครื่องบินแอร์บัส เอ380 จะทำการบินเยือนสาธิตสู่ท่าอากาศยานสำคัญทั่วโลก เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2550 นี้ ซึ่งรวมทั้งการเดินทางมายังท่าอากาศยานหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยแอร์บัส จะนำเครื่องบินแอร์บัส เอ380 เอ็มเอสเอ็น 007 (เครื่องบินเลขหมายการผลิตลำที่ 7) ทำการบินเยือนสาธิตสู่ทวีปเอเชีย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Rolls Royce Trend 900 แอร์บัสเอ380 เป็นเครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และพรั่งพร้อมด้วยนวัตกรรมสำหรับการเดินทางทางอากาศที่ยอดเยี่ยมที่สุดในปัจจุบัน ได้รับการติดตั้งห้องโดยสารอย่างสมบูรณ์แบบ สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 520 คน ใน 3 ระดับชั้นโดยสาร ที่ให้ความเงียบและความสะดวกสบายตลอดการเดินทางอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยมีกำหนดการเดินทาง ดังนี้
- ประเทศไทย เที่ยวบินทดสอบเส้นทางบิน สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่-สุวรรณภูมิ
ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม ถึง 2 กันยายน
- เวียดนาม ณ ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงฮานอย
ระหว่างวันที่ 2-3 กันยายน
- ฮ่องกง ณ เอเชียน แอโรสเปช
ระหว่างวันที่ 3-5 กันยายน
- เกาหลีใต้ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงโซล
ระหว่างวันที่ 5-7 กันยายน
ในขณะที่การบินเยือนสาธิตสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา จะทำการบินด้วยแอร์บัส เอ380 เอ็มเอสเอ็น 009 (เครื่องบินเลขหมายการผลิตลำที่ 9) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Engine Alliance GP 7200 การบินเยือนสาธิตสู่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบินทดสอบเส้นทางบิน โดยใช้เครื่องบิน เอ380 เอ็มเอสเอ็น 009 และเครื่องยนต์รุ่นดังกล่าวซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเครื่องบินเอ380 เอ็มเอสเอ็น 009 นี้จะไม่มีการติดตั้งห้องโดยสาร และจะจอดแสดง (static display) ณ ท่าอากาศยานดังต่อไปนี้
- มลรัฐคอนเนกติกัต ท่าอากาศยานนานาชาติแบรดเลย์ (BDL)
ระหว่างวันที่ 2-3 ตุลาคม
- มลรัฐเค็นตักกี้ เมืองซินซิเนติ ณ ท่าอากาศยานนอร์ทเค็นตักกี้ (CVG)
ระหว่างวันที่ 3-4 ตุลาคม
- มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ท่าอากาศยานนานาชาตินครซานฟรานซิสโก (SFO)
ระหว่างวันที่ 4-5 ตุลาคม
การบินเยือนสาธิตสู่ทวีปเอเชียและประเทศสหรัฐอเมริกานี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดเที่ยวบินให้บริการจริงของเครื่องบินเอ380 ซึ่งเครื่องบินเอ380 จะได้รับการทดสอบการปฏิบัติการบินจริงตามมาตรฐานหลักของสายการบินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบสนามบิน การทดสอบภาคพื้นดิน และกระบวนการด้านการซ่อมบำรุง จนถึงปัจจุบันเครื่องบินแอร์บัสเอ380 ได้บินเยือนท่าอากาศยานต่างๆ มาแล้วกว่า 45 แห่ง และเมื่อถึงปี พ.ศ.2554 ท่าอากาศยานกว่า 70 แห่งทั่วโลกจะสามารถรองรับการปฏิบัติการด้วยเครื่องบินเอ380
ปัจจุบันเครื่องบินเอ380 มียอดการสั่งซื้อและให้คำมั่นในการสั่งซื้อรวมทั้งสิ้น 173 ลำจากลูกค้า 14 ราย โดยเครื่องบินเอ380 ลำแรกจะได้รับการส่งมอบให้กับ สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ในเดือนตุลาคม ส่วนลำต่อๆไปของ สิงคโปร์ แอร์ไลน์ รวมทั้งสำหรับสายการบินอื่น อาทิ เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ส และแควนตัส แอร์เวย์ ต่างล้วนคืบหน้าตรงตามกำหนดการเช่นกัน
เครื่องบินเอ380 มอบความสะดวกสบายที่มากกว่าในทุกระดับชั้นโดยสาร รวมทั้งให้พื้นที่เพื่อการพักผ่อนที่กว้างขวางมากกว่าเครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์ทุกรุ่นที่เคยมีมา ผู้โดยสารจะได้รับความรื่นรมย์ตลอดการเดินทางภายในห้องโดยสารที่ให้ความเงียบอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ประสิทธิภาพในการเผาผลาญน้ำมันเชื้อเพลิงและเทคโนโลยีอันล้ำสมัยช่วยให้เครื่องบินแอร์บัสเอ380 มีความประหยัดสูงพร้อมทั้งมีความยืดหยุ่นในการปฏิบัติการมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากต้นทุนในการบรรทุกผู้โดยสารต่อระยะทางในการบิน(seat-mile cost) ที่ลดลงถึงร้อยละ20 และสามารถเดินทางได้ระยะทางมากขึ้นถึงร้อยละ15เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ในปัจจุบัน
ด้วยรูปลักษณ์ที่สะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีเสียงเงียบที่สุดขณะทำการบิน และด้วยความชาญฉลาดเป็นเลิศ ทำให้ เอ380 เป็นเครื่องบินที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมการบิน ในด้านการขนส่งทางอากาศและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีประสิทธิภาพในการเผาผลาญเชื้อเพลิงดีเยี่ยม เมื่อเทียบกับจำนวนผู้โดยสารหนึ่งท่านแล้ว จะเทียบได้กับรถยนต์ครอบครัวประหยัดน้ำมันขนาดเล็กเพียงหนึ่งคันเท่านั้น เครื่องบิน เอ380 ยังสามารถบินขึ้นและร่อนลงบนรันเวย์ที่มีระยะทางสั้นลงกว่าเดิม อีกทั้งสามารถรองรับปริมาณผู้โดยสารได้มากขึ้นโดยไม่ต้องเพิ่มเที่ยวบิน ซึ่งทั้งหมดถือเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาระบบการจราจรทางอากาศในปัจจุบันอีกด้วย
แอร์บัส เป็นบริษัทในเครือ EADS
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net