กรุงเทพฯ--4 ต.ค.--เจโทร กรุงเทพฯ
กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร กรุงเทพฯ ผนึกความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (EPAs) เช่น ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) และความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น (AJCEP) และเพื่อนำเสนอ ‘Thai-Japanese Business Partnership’ หรือ ‘T-J PS’ ซึ่งก็คือโมเดลความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างไทยและญี่ปุ่น ในงานสัมมนาเกี่ยวกับการตลาด การสร้างแบรนด์ และการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้วยการดีไซน์ ในวันพฤหัสที่ 21 ตุลาคม 2553 ณ BITEC โดยจัดช่วงเวลาเดียวกับ BIG+BIH 2010 (19-24 ต.ค.)
มร. มูเนโนริ ยามาดะ ประธานเจโทร กรุงเทพฯ กล่าวว่า “SMEs ไทยจำนวนมากยังไม่ทราบถึงสิทธิประโยชน์จาก EPAs โดยสมบูรณ์ หลายท่านคิดว่าเข้าถึงข้อมูลหรือขอรับสิทธิประโยชน์ได้ยาก ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จึงมุ่งเผยแพร่การใช้ประโยชน์จาก EPAs อย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการสนับสนุนจากเจโทร กรุงเทพฯ โดยจัดงานสัมมนาหัวข้อ ‘Symposium for Thai SMEs for their business expansion to the new markets’ ในช่วงเดียวกันกับงาน BIG+BIH 2010 เพื่อเสริมรากฐานสำหรับการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อย่างเต็มตัว ซึ่งจะมีการลดหรืองดเว้นภาษีอย่างสมบูรณ์ และพัฒนาอาเซียนให้เป็นตลาดเดียวซึ่งบริษัทญี่ปุ่นให้ความสนใจขยายเครือข่ายธุรกิจ”
“ภายในงานสัมมนาดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์และเจโทร กรุงเทพฯ ยังร่วมกันนำเสนอกรณีศึกษาจากโมเดลความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างไทยและญี่ปุ่น ‘Thai-Japan Business Partnership’ หรือ ‘T-J PS’ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ SMEs จากหลายสาขาธุรกิจประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดใหม่ร่วมกัน โดยเฉพาะประเทศอื่นในเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น อินเดีย ทั้งนี้ ผลการสำรวจล่าสุดโดยเจโทร พบว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนเป็นอันดับที่ 2 (รองจากประเทศจีน) สำหรับนักลงทุนชาวญี่ปุ่น ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนชาวญี่ปุ่นจำนวนมากยอมรับชาวไทยว่าเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่สำคัญที่สุดสำหรับการขยายธุรกิจ” มร. ยามาดะ กล่าว
งานสัมมนาจะจัดในวันพฤหัสที่ 21 ตุลาคม 2553 เวลา 08:00-12.00 น. (พร้อมรับประทานอาหารร่วมกัน) ณ ห้อง Grand Hall ชั้น 2 อาคาร BITEC โดยจัดช่วงเวลาเดียวกับ BIG+BIH 2010 ไม่เสียค่าใช้จ่าย การสมัครทำได้โดยดาวน์โหลดใบสมัครที่ www.depthai.go.th และแฟกซ์ไปที่หมายเลข 02-5475666-7 ภายในวันพฤหัสที่ 14 ตุลาคมนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 02-5077778 หรือ 02-5077786 (คุณปิตินันท์หรือคุณศศิวิมล สำนักยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการส่งออก)
ในการนี้ แขกรับเชิญในงานสัมมนารวมถึงกูรูชาวญี่ปุ่น ได้แก่:
Mr. Seiya Sukegawa รองประธานและนักเศรษฐศาสตร์อาวุโส (ภูมิภาคเอเชีย) เจโทร กรุงเทพฯ จะนำเสนอข้อมูลเรื่อง “Penetrating the new market by utilizing FTA/EPA” — เพื่อแนะนำการใช้สิทธิประโยชน์จาก JTEPA รวมถึง ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น (AJCEP) และเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ให้แก่ SMEs ไทย Dr. Masami Ishida นักวิจัยอาวุโสจาก IDE-JETRO Bangkok Research Center จะนำเสนอข้อมูลเรื่อง “Business Environment in AEC countries ~CLMV countries as case studies~” — เพื่อให้ความรู้เรื่องสภาพทางธุรกิจและโอกาสในประเทศเพื่อนบ้านและเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จ ได้แก่:
TARAD.com — เว็บไซต์สำหรับ Online shopping ที่ประสบความสำเร็จในไทย ที่จับมือกับ Rakuten ยักษ์ใหญ่ด้าน e-commerce ของญี่ปุ่นที่ขยายตลาดครอบคลุมทั่วโลก อาทิ เอเชีย สหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งถือเป็นโอกาสในการเพิ่มช่องทางการทำตลาดสินค้าส่งออกให้กับ SMEs ไทย LOFT - ด้วยปรัชญาที่ว่า “เป็นมากกว่าร้านค้าธรรมดา” ร้าน Loft ที่มีที่มาจากประเทศญี่ปุ่นจึงประสบความสำเร็จในการปรับตัวเข้าสู่ความพึงพอใจของผู้บริโภคชาวไทย ในงานสัมมนาครั้งนี้ Loft จะเปิดเผยถึง “Treasure Box of Know-How” ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ของบริษัท THANN - แบรนด์ผลิตภัณฑ์สปาไทยที่มีรูปแบบการตกแต่งร้านอย่างงดงามและบรรจุภัณฑ์โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ได้รับรางวัลการออกแบบที่ดี DE-mark โดยกระทรวงพาณิชย์ และ G-mark ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเครื่องหมายของความเป็นเลิศทางดีไซน์ การใช้งาน และคุณภาพ ในปัจจุบัน รางวัล DE-mark และ G-mark ร่วมมือกันเพื่อเปิดทางให้สินค้าที่ได้รับรางวัลเข้าสู่ตลาดในประเทศไทยและญี่ปุ่น ด้วยความสนับสนุนจากกระทรวงพาณิชย์ Japan Industrial Design Promotion Organization (JIDPO) และเจโทร