กรุงเทพฯ--4 ต.ค.--PRdd
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวในระดับที่น่าผิดหวัง ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณในเร็วๆนี้ นั้นจะเป็นปัจจัยที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้เนื่องจากก่อนหน้านี้ความกังวลต่อการดำเนินนโยบายดังกล่าวได้เป็นตัวกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เฟดได้แสดงถึงความพร้อมในการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจโดยผ่านมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing) หรือ QE ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินเพื่อกดดันอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ต่ำลง ก็มีผลให้ดอลลาร์อ่อนค่ามาโดยตลอด
ในขณะเดียวกันทองคำก็ได้ปรับตัวสร้างจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ทำให้คาดว่าสัปดาห์นี้ราคาทองคำจะยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์เป็นหลักบวกกับประเด็นปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปโดยเฉพาะไอแลนด์ที่ได้เข้ามากระทบต่อตลาดทองคำในระยะหลัง เป็นผลให้นักลงทุนยังคงเข้าลงทุนในทองคำเพื่อหลีกเสี่ยงความเสี่ยงจากประเด็นดังกล่าว ดังนั้นจึงคาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะผลักดันให้ราคาทองคำขยับเพิ่มสูงขึ้นทำสถิติสูงสุดต่อไปโดยให้กรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้อยู่ที่ระดับ 1,305 -1,335 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้นักลงทุนเข้าเก็งกำไรระยะสั้นด้วยการเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวและทำกำไรทันทีเมื่อราคาดีดตัว ทั้งนี้ทางวายแอลจียังไม่แนะนำให้นักลงทุนถือครองทองคำเพื่อการลงทุนในระยะยาวมากนัก เนื่องจากปัจจัยการแข็งค่าของค่าเงินบาทยังคงกดดันราคาทองคำในประเทศอยู่ค่อนข้างมากทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับอาจไม่คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องเผชิญ สำหรับกรอบแนวรับ