กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเตือน 18 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่ม ระมัดระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน
น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม 2553 พร้อมสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนจัดเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ทันทีที่เกิดภัย
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศ กับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น และฝนตกหนัก ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่เสี่ยงภัย 18 จังหวัด ระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคม 2553 ดังนี้ กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี นครนายก ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
จึงได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมการป้องกันอันตรายจากภาวะฝนตกหนักที่อาจสร้างความเสียหาย แก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ โดยหมั่นติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัย ในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยแจ้งเตือนประชาชน และรายงานสถานการณ์ภัยแก่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที และหากเกิดสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยของจังหวัดและอำเภอ
นายวิบูลย์ กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 18 จังหวัดให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดจากภาวะฝนหนัก หากมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานในพื้นที่และสังเกตพบสัญญาณผิดปกติ ทางธรรมชาติ เช่น ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและมีสีขุ่นข้นเป็นสีเดียวกับสีดินบนภูเขา มีเสียงดังมาจากป่าต้นน้ำ เป็นต้น ให้รีบอพยพและขนย้ายสิ่งของไปยังที่ปลอดภัย เพราะอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก หรือดินโคลนถล่มขึ้นได้ สุดท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
?
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2243-2200 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมป้องกันฯ