คำชี้แจงกรมสรรพากร เรื่อง การผ่อนชำระและการคำนวณเงินเพิ่ม กรณีผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ข่าวทั่วไป Friday May 13, 2011 10:23 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

คำชี้แจงกรมสรรพากร

เรื่อง การผ่อนชำระและการคำนวณเงินเพิ่ม กรณีผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ที่อยู่ในท้องที่ที่เกิดภัยพิบัติอุทกภัย ได้รับอนุมัติให้ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการ

__________________________________

ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อาศัยอำนาจตามมาตรา ๓ อัฏฐ วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีอากรให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและผู้ประกอบการที่มีสถานประกอบการตั้งอยู่ในท้องที่ที่เกิดภัยพิบัติอุทกภัยออกไปจนถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔

กรมสรรพากรขอชี้แจงเกี่ยวกับการผ่อนชำระและการคำนวณเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับกรณีผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้พึงประเมินจากการทำงานหรือประกอบกิจการในท้องที่ที่เกิดภัยพิบัติอุทกภัยซึ่งได้รับสิทธิให้ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษี แต่ไม่ชำระภาษีให้ครบถ้วนภายในกำหนดเวลาที่ขยายออกไป หรือไม่ยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีให้ถูกต้องภายในกำหนดเวลาที่ขยายออกไป ดังต่อไปนี้

๑. กรณีผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ได้รับสิทธิให้ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีออกไปจนถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ และมีภาษีที่ต้องเสียจำนวนตั้งแต่ ๓,๐๐๐ บาทขึ้นไป มีสิทธิผ่อนชำระเป็นสามงวด งวดละเท่า ๆ กัน ตามมาตรา ๖๔ แห่งประมวลรัษฎากร โดยงวดที่หนึ่งต้องชำระพร้อมกับการยื่นแบบแสดงรายการภายในกำหนดเวลาปกติหรือภายในกำหนดเวลาที่ได้รับอนุมัติให้ขยายออกไป งวดที่สองต้องชำระภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ต้องชำระงวดที่หนึ่ง และงวดที่สามต้องชำระภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันสุดท้ายที่ต้องชำระงวดที่สอง หากไม่ชำระงวดใดงวดหนึ่งภายในเวลาที่กำหนดไว้ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีหมดสิทธิที่จะชำระภาษีเป็นรายงวดต่อไป และต้องเสียเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับงวดที่ไม่ชำระและงวดต่อ ๆ ไป โดยคำนวณเงินเพิ่มตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๔ จนถึงวันชำระ

ตัวอย่าง

(๑) ผู้มีหน้าที่เสียภาษียื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับปีภาษี ๒๕๕๓ ภายในกำหนดเวลาที่ขยายออกไป คือยื่นภายในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ โดยมีภาษีต้องชำระจำนวนตั้งแต่ ๓,๐๐๐ บาทขึ้นไป มีสิทธิผ่อนชำระตามมาตรา ๖๔ แห่งประมวลรัษฎากร จำนวนสามงวด และจะต้องชำระภาษีแต่ละงวดภายในกำหนดเวลาดังต่อไปนี้

  • งวดที่หนึ่ง ต้องชำระภายในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔
  • งวดที่สอง ต้องชำระภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔
  • งวดที่สาม ต้องชำระภายในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔

หากผู้มีหน้าที่เสียภาษีไม่ชำระภาษีงวดที่สองภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีหมดสิทธิที่จะชำระภาษีเป็นรายงวดต่อไป และต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับงวดที่สองและงวดที่สาม โดยคำนวณเงินเพิ่มตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๔ จนถึงวันชำระ

(๒) กรณีผู้มีหน้าที่เสียภาษีได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี ๒๕๕๓ ภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ โดยมีภาษีต้องชำระจำนวนตั้งแต่ ๓,๐๐๐ บาทขึ้นไป และใช้สิทธิผ่อนชำระตามมาตรา ๖๔ แห่งประมวลรัษฎากร โดยชำระงวดที่หนึ่งไว้ภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีอากรออกไปเป็นภายในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีดังกล่าวจึงได้รับสิทธิขยายกำหนดเวลาการผ่อนชำระภาษีงวดที่สอง และงวดที่สามออกไปด้วย ดังต่อไปนี้

  • งวดที่หนึ่ง ชำระภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔
  • งวดที่สอง ต้องชำระภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔
  • งวดที่สาม ต้องชำระภายในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๔

หากผู้มีหน้าที่เสียภาษีไม่ชำระภาษีงวดที่สองภายในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีหมดสิทธิที่จะชำระภาษีเป็นรายงวดต่อไป และต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับงวดที่สองและงวดที่สาม โดยคำนวณเงินเพิ่มตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๔ จนถึงวันชำระ

๒. กรณีผู้มีหน้าที่เสียภาษียื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับปีภาษี ๒๕๕๓ ภายในกำหนดเวลาปกติ คือยื่นภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ แต่พบว่าคำนวณภาษีไว้ไม่ถูกต้อง ผู้มีหน้าที่เสียภาษีดังกล่าวมีสิทธิยื่นแบบแสดงรายการเพื่อชำระภาษีเพิ่มเติมได้ภายในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ โดยไม่ต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร

ตัวอย่าง

ผู้มีหน้าที่เสียภาษียื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับปีภาษี ๒๕๕๓ ภายในกำหนดเวลาปกติ คือยื่นภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ ชำระภาษีไว้จำนวน ๑,๐๐๐ บาท แต่พบว่าไม่ได้นำเงินได้พึงประเมินบางรายการมารวมคำนวณภาษี เป็นเหตุให้ชำระภาษีไว้ขาดไปจำนวน ๕๐๐ บาท หากผู้มีหน้าที่เสียภาษียื่นแบบแสดงรายการเพิ่มเติมเพื่อชำระภาษีที่ขาดไปจำนวน ๕๐๐ บาท ภายในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ จะไม่ต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร

๓. กรณีผู้มีหน้าที่เสียภาษียื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับปีภาษี ๒๕๕๓ ภายในกำหนดเวลาปกติ คือยื่นภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ หรือยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในกำหนดเวลาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อนุมัติให้ขยายออกไป คือยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ แต่ปรากฏว่าชำระภาษีไว้ไม่ถูกต้อง และได้มายื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีเพิ่มเติมเมื่อพ้นกำหนดเวลาที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อนุมัติให้ขยายออกไป คือภายหลังวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีจะต้องชำระภาษีเพิ่มเติม และจะต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร โดยคำนวณเงินเพิ่มตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๔ จนถึงวันชำระ

ตัวอย่าง

(๑) ผู้มีหน้าที่เสียภาษียื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับปีภาษี ๒๕๕๓ ภายในกำหนดเวลาปกติ คือยื่นภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๔ ชำระภาษีไว้จำนวน ๑,๐๐๐ บาท แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีภาษีที่ต้องชำระจำนวน ๑,๕๐๐ บาท ผู้มีหน้าที่เสียภาษีจะต้องชำระภาษีเพิ่มเติมอีกจำนวน ๕๐๐ บาท และต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร โดยคำนวณเงินเพิ่มตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๔ จนถึงวันชำระ

(๒) ผู้มีหน้าที่เสียภาษียื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับปีภาษี ๒๕๕๓ ภายในกำหนดเวลาที่ขยายออกไป คือยื่นภายในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ชำระภาษีไว้จำนวน ๑,๐๐๐ บาท แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีภาษีที่ต้องชำระจำนวน ๑,๕๐๐ บาท ผู้มีหน้าที่เสียภาษีจะต้องชำระภาษีเพิ่มเติมอีกจำนวน ๕๐๐ บาท และต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร โดยคำนวณเงินเพิ่มตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๔ จนถึงวันชำระ

๔. กรณีผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่ยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีภายในวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ จะไม่ได้รับประโยชน์จากการอนุมัติให้ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการตามมาตรา ๓ อัฏฐ วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น ผู้มีหน้าที่เสียภาษีจะต้องรับผิดเสียภาษีและเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร โดยคำนวณเงินเพิ่มตั้งแต่วันพ้นกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการตามปกติ คือตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ จนถึงวันชำระ

กรมสรรพากร

๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔

สำนักกฎหมาย
โทร. ๐-๒๒๗๒-๘๒๘๗-๘

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ