ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม(ฉบับที่ 182) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการลดอัตราภาษีเงินได้

ข่าวการเมือง Friday May 20, 2011 09:46 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร

เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๑๙๘)

เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการลดอัตราภาษีเงินได้

ของบริษัทซึ่งประกอบกิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศ

-----------------------------------

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕ มาตรา ๘ มาตรา ๑๑ (๔) และ (๕) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๔ อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการลดอัตราภาษีเงินได้ของบริษัทซึ่งประกอบกิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้บริษัทซึ่งประกอบกิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศที่ประสงค์จะได้รับสิทธิลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลตามมาตรา ๕ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๑๘) พ.ศ. ๒๕๕๔ แจ้งการจัดตั้งศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศต่ออธิบดีกรมสรรพากร ตามแบบแจ้งการจัดตั้งศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศที่แนบท้ายประกาศนี้ โดยให้ยื่น ณ สำนักบริหารธุรกิจขนาดใหญ่ กรมสรรพากร หรือยื่น ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ในเขตท้องที่ที่บริษัทซึ่งประกอบกิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศมีสถานประกอบการตั้งอยู่ก็ได้ ในกรณีมีสถานประกอบการหลายแห่ง ให้ยื่น ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ ในเขตท้องที่ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทซึ่งประกอบกิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศตั้งอยู่ ทั้งนี้ บริษัทซึ่งประกอบกิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศต้องจดแจ้งภายในสองปีนับแต่วันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ บริษัทซึ่งประกอบกิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศมีสิทธิที่จะใช้แบบแจ้งการจัดตั้งศูนย์กลาง การจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศที่พิมพ์จากระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร www.rd.go.th หรือจะใช้แบบแจ้งการจัดตั้งที่กรมสรรพากรจัดพิมพ์ก็ได้

ข้อ ๒ การคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิของบริษัทซึ่งประกอบกิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศ ให้คำนวณตามมาตรา ๖๕ แห่งประมวลรัษฎากร โดยนำรายได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่กระทำในรอบระยะเวลาบัญชี หักด้วยรายจ่ายตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในมาตรา ๖๕ ทวิ และมาตรา ๖๕ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร

กรณีบริษัทซึ่งประกอบกิจการทั้งกิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศและกิจการอื่น ให้บริษัทดังกล่าวคำนวณกำไรสุทธิและขาดทุนสุทธิของแต่ละกิจการแยกต่างหากจากกัน หากรายจ่ายใดไม่สามารถแยกกันได้โดยชัดแจ้งว่าส่วนใดเป็นรายจ่ายของกิจการใดให้บริษัทเฉลี่ยรายจ่ายดังกล่าวตามส่วนของรายได้ระหว่างรายได้จากการประกอบกิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศและรายได้จากกิจการอื่น

กรณีบริษัทซึ่งประกอบกิจการทั้งกิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศและกิจการอื่น หากกิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศมีผลขาดทุนสุทธิให้คงผลขาดทุนสุทธิดังกล่าวไว้ในกิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศเท่านั้น

ข้อ ๓ ให้บริษัทซึ่งประกอบกิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ของบริษัท พร้อมทั้งบัญชีงบดุล บัญชีทำการ และบัญชีกำไรขาดทุน ภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี ตามแบบที่อธิบดีกำหนดพร้อมกับชำระภาษีตามมาตรา ๖๘ และมาตรา ๖๙ แห่งประมวลรัษฎากรและยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ของบริษัทภายในสองเดือนนับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาหกเดือนนับแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชีตามแบบที่อธิบดีกำหนดพร้อมกับชำระภาษีตามมาตรา ๖๗ ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

กรณีบริษัทซึ่งประกอบกิจการทั้งกิจการศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศและกิจการอื่น ให้บริษัทดังกล่าวแยกยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ของบริษัท พร้อมทั้งบัญชีทำการ และบัญชีกำไรขาดทุนของแต่ละกิจการออกเป็นคนละชุด สำหรับบัญชีงบดุลของบริษัทดังกล่าวให้ยื่นพร้อมแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ของบริษัทในกิจการใดกิจการหนึ่งก็ได้ โดยในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ของบริษัทดังกล่าวให้ใช้เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรเดียวกัน

ข้อ ๔ พนักงานปฏิบัติงานในศูนย์กลางการจัดหาสินค้าเพื่อการผลิตระหว่างประเทศซึ่งมีทักษะและความรู้ขั้นต่ำตาม มาตรา ๑๑ (๔) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับ ๕๑๘) พ.ศ. ๒๕๔๕ จะต้องสำเร็จการศึกษาในระดับที่ไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลาย ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นต้น หรือเทียบเท่า

ข้อ ๕ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

สาธิต รังคสิริ

(นายสาธิต รังคสิริ)

อธิบดีกรมสรรพากร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ