พระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร(ฉบับที่ 525) พ.ศ. 2554

ข่าวการเมือง Tuesday June 14, 2011 09:48 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

พระราชกฤษฎีกา

ออกตามความในประมวลรัษฎากร

ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ๕๒๕)

พ.ศ. ๒๕๕๔

ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔

เป็นปีที่ ๖๖ ในรัชกาลปัจจุบัน

------------------------------------

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมการลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับรายรับจากการประกอบกิจการ บางกรณี

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๓ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ๕๒๕) พ.ศ. ๒๕๕๔”

มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

มาตรา ๓ ให้ยกเลิกความใน (๔) ของมาตรา ๕ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ๔๖๙) พ.ศ. ๒๕๕๑ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“(๔) ดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่ได้จากตราสารหนี้หรือกำไรก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ที่ได้จากการซื้อหรือขายตราสารหนี้ ทั้งนี้ ในกรณีที่ตราสารหนี้เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินหรือตั๋วแลกเงินจะต้องเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินหรือตั๋วแลกเงินตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประกาศกำหนด”

มาตรา ๔ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๘) ของมาตรา ๕ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ๔๖๙) พ.ศ. ๒๕๕๑

“(๘) ดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินได้รับจากการฝากเงินไว้กับธนาคารแห่งประเทศไทย”

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ๔๖๙) พ.ศ. ๒๕๕๑ ในส่วนที่กำหนดให้ลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับรายรับจากการประกอบกิจการของสถาบันการเงินยังไม่ชัดเจนเพียงพอ ทำให้เกิดปัญหาในการบังคับใช้กฎหมาย สมควรแก้ไขโดยกำหนดให้การลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับดอกเบี้ยหรือส่วนลดที่ได้จากตราสารหนี้หรือกำไรก่อนหักรายจ่ายใด ๆ ที่ได้จากการซื้อหรือขายตราสารหนี้ ในกรณีที่ตราสารหนี้เป็นตั๋วสัญญาใช้เงินหรือตั๋วแลกเงิน จะต้องเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินหรือตั๋วแลกเงินตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประกาศกำหนด ประกอบกับเพื่อเป็นการส่งเสริมการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทยให้มีการขยายตัวในการทำธุรกรรมทางการเงินมากยิ่งขึ้น สมควรกำหนดให้ลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ สำหรับรายรับในส่วนที่เป็นดอกเบี้ยที่สถาบันการเงินได้รับจากการฝากเงินไว้กับธนาคารแห่งประเทศไทย จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

(ร.จ. ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 128 ตอนที่ 46 ก วันที่ 9 มิถุนายน 2554)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ