พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๓๓)
พ.ศ. ๒๕๕๕
--------------------------------
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เป็นปีที่ ๖๗ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์บางกรณี
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา ๓ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๓๓) พ.ศ. ๒๕๕๕”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ในพระราชกฤษฎีกานี้
“ทรัสต์” หมายความว่า นิติสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นตามสัญญาก่อตั้งทรัสต์ แต่ไม่หมายความรวมถึงนิติสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นตามสัญญาก่อตั้งทรัสต์ที่เกี่ยวข้องกับการออกศุกูกตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
“สัญญาก่อตั้งทรัสต์” หมายความว่า สัญญาก่อตั้งทรัสต์ตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน
“ผู้ก่อตั้งทรัสต์” หมายความว่า ผู้ก่อตั้งทรัสต์ตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน
“ทรัสตี” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ให้ประกอบธุรกิจเป็นทรัสตีตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน
“กองทรัสต์” หมายความว่า กองทรัสต์ตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน
“เงินชดเชยเงินปันผล” หมายความว่า เงินที่ทรัสตีต้องจ่ายให้แก่ผู้ก่อตั้งทรัสต์หรือผู้รับประโยชน์ เนื่องจากบริษัทผู้ออกหุ้นได้จ่ายเงินปันผลของหุ้นในระหว่างที่ทรัสตีถือหุ้นนั้นไว้ตามสัญญาก่อตั้งทรัสต์
มาตรา ๔ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน ๒ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่ผู้รับประโยชน์ สำหรับเงินได้ที่เป็นเงินชดเชยเงินปันผลซึ่งผู้รับประโยชน์ได้รับตามสัญญาก่อตั้งทรัสต์ และยอมให้ทรัสตีผู้จ่ายเงินได้หักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละสิบของเงินชดเชยเงินปันผลที่ได้รับ ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่ผู้รับประโยชน์ไม่ขอรับเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้นคืนหรือไม่ขอเครดิตเงินภาษีที่ถูกหักไว้นั้นไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
มาตรา ๕ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่ทรัสตี สำหรับเงินได้ที่ได้จากกองทรัสต์ แต่ไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมหรือประโยชน์อื่นใดที่ทรัสตีได้รับจากการให้บริการเป็นทรัสตีตามสัญญาก่อตั้งทรัสต์
มาตรา ๖ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่ผู้ก่อตั้งทรัสต์สำหรับเงินได้ที่เป็นเงินชดเชยเงินปันผลหรือเงินปันผลที่ได้รับจากบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ดังต่อไปนี้
(๑) ผู้ก่อตั้งทรัสต์ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่ได้รับโอนกลับคืนมาซึ่งหุ้นที่ได้มีการโอนให้แก่ทรัสตี ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ให้ยกเว้นภาษีเป็นจำนวนกึ่งหนึ่งของเงินชดเชยเงินปันผลหรือเงินปันผลที่ได้รับ
(๒) ผู้ก่อตั้งทรัสต์ซึ่งเป็นบริษัทตาม (๑) ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนหรือเป็นบริษัทที่ถือหุ้นในบริษัทผู้จ่ายเงินปันผลเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละยี่สิบห้าของหุ้นทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียงโดยบริษัทผู้จ่ายเงินปันผลไม่ได้ถือหุ้นในบริษัทนั้น ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม ให้ยกเว้นภาษีเป็นจำนวนเท่ากับเงินชดเชยเงินปันผลหรือเงินปันผลที่ได้รับผู้ก่อตั้งทรัสต์ตามวรรคหนึ่ง ต้องถือหุ้นที่ก่อให้เกิดเงินชดเชยเงินปันผลหรือเงินปันผลไว้ไม่น้อยกว่าสามเดือนนับแต่วันที่ได้หุ้นนั้นมาจนถึงวันที่มีเงินได้ดังกล่าว และยังคงถือหุ้นนั้นต่อไปอีกไม่น้อยกว่าสามเดือนนับแต่วันที่มีเงินได้ โดยให้นับระยะเวลาระหว่างที่ผู้ก่อตั้งทรัสต์ได้โอนหุ้นให้แก่ทรัสตีจนถึงวันที่ผู้ก่อตั้งทรัสต์ได้รับโอนหุ้นนั้นกลับคืนรวมด้วย
มาตรา ๗ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน ๓ หมวด ๓ ภาษีมูลค่าเพิ่มตามหมวด ๔ ภาษีธุรกิจเฉพาะตามหมวด ๕ และอากรแสตมป์ตามหมวด ๖ ในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่ผู้ก่อตั้งทรัสต์และทรัสตี สำหรับเงินได้ มูลค่าของฐานภาษี รายรับ และการกระทำตราสาร ที่เกิดขึ้นหรือเนื่องมาจากการโอนหรือก่อทรัพยสิทธิหรือสิทธิใด ๆ ในทรัพย์สิน ระหว่างผู้ก่อตั้งทรัสต์กับทรัสตีหรือระหว่างทรัสตีกับทรัสตีในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงทรัสตีตามสัญญาก่อตั้งทรัสต์
มาตรา ๘ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่มีการตราพระราชบัญญัติทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน พ.ศ. ๒๕๕๐ เพื่อให้ทรัสต์เป็นเครื่องมือในการดำเนินธุรกรรมต่าง ๆ ในตลาดทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เนื่องจากการดำเนินธุรกรรมในตลาดทุนตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุนและเงินได้ที่เกิดขึ้นจากธุรกรรมดังกล่าวอยู่ในบังคับที่ต้องเสียภาษีตามประมวลรัษฎากรในหลายลักษณะอันก่อให้เกิดภาระภาษีซ้ำซ้อนและไม่จูงใจให้มีการใช้ทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน สมควรยกเว้นภาษีเงินได้ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่ผู้ก่อตั้งทรัสต์ ทรัสตี และผู้รับประโยชน์ สำหรับเงินได้มูลค่าของฐานภาษี รายรับ และการกระทำตราสารที่เกิดขึ้นหรือเนื่องมาจากธุรกรรมที่เกิดขึ้นตามสัญญาก่อตั้งทรัสต์ตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน บางกรณี เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการก่อตั้งทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน อันจะช่วยให้มีการระดมทุนในตลาดทุนมากยิ่งขึ้น จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
(ร.จ. ฉบับกฤษฎีกา เล่ม 129 ตอนที่ 12 ก วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2555)