ประกาศกรมสรรพากร
เรื่อง การจัดทำบัญชีงบดุล บัญชีทำการ และบัญชีกำไรขาดทุนตามมาตรา ๖๘ ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
---------------------------
ตามที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ออกประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง กำหนดรายการย่อที่ต้องมีในงบการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๔ ลงวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๔ ยกเลิกประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง กำหนดรายการย่อที่ต้องมีในงบการเงิน พ.ศ. ๒๕๕๒ ลงวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๒ และกำหนดให้ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีดังต่อไปนี้ ต้องจัดทำงบการเงินตามรูปแบบของแต่ละประเภท โดยให้ถือปฏิบัติสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ดังนี้
๑. ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ และกิจการร่วมค้า ต้องจัดทำ “งบแสดงฐานะทางการเงิน” แทน “งบดุล”
๒. บริษัทมหาชนจำกัด ต้องจัดทำ “งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ” แทน “งบกำไรขาดทุน”
๓. ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ และกิจการร่วมค้า ยังคงจัดทำ “งบกำไรขาดทุน” ตามข้อกฎหมายเดิม
แต่โดยเหตุที่ตามมาตรา ๖๘ ทวิ และมาตรา ๖๙ แห่งประมวลรัษฎากร ได้บัญญัติให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิที่ได้จากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่ได้กระทำในรอบระยะเวลาบัญชีตามมาตรา ๖๕ แห่งประมวลรัษฎากร ให้มีหน้าที่จัดทำ “บัญชีงบดุล” “บัญชีทำการ” และ “บัญชีกำไรขาดทุน” พร้อมทั้งแนบบัญชีดังกล่าวที่มีผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชีตามมาตรา ๓ สัตต แห่งประมวลรัษฎากร ตรวจสอบและรับรองไปพร้อมกับแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล (ภ. ง. ด. ๕๐) จึงเป็นผลให้ชื่อบัญชีอันเป็นงบการเงินที่ต้องจัดทำตามกฎหมาย ว่าด้วยการบัญชีกับบัญชีที่ต้องจัดทำตามประมวลรัษฎากร ดังกล่าวไม่สอดคล้องกัน
ดังนั้น เพื่อให้การจัดทำ “บัญชีงบดุล” และ “บัญชีกำไรขาดทุน” ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา ๓๙ แห่งประมวลรัษฎากร เป็นไปโดยถูกต้อง และเป็นการอำนวยความสะดวกแก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกำไรสุทธิดังกล่าว กรมสรรพากรจึงกำหนดให้ “งบแสดงฐานะการเงิน” “งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ” และ “งบกำไรขาดทุน”ในงบการเงินที่ต้องจัดทำตามกฎหมาย ว่าด้วยการบัญชี เป็น “บัญชีงบดุล”และ “บัญชีกำไรขาดทุน”ที่ต้องจัดทำตามมาตรา ๖๘ ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ “งบแสดงฐานะทางการเงิน” ในงบการเงินที่ต้องจัดทำตามกฎหมาย ว่าด้วยการบัญชี เป็น “บัญชีงบดุล”
ตามมาตรา ๖๘ ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อ ๒ ให้ “งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ”ในงบการเงินที่ต้องจัดทำตามกฎหมาย ว่าด้วยการบัญชี เป็น “บัญชีกำไรขาดทุน”
ตามมาตรา ๖๘ ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อ ๓ ให้ “งบกำไรขาดทุน”ในงบการเงินที่ต้องจัดทำตามกฎหมาย ว่าด้วยการบัญชี เป็น “บัญชีกำไรขาดทุน”
ตามมาตรา ๖๘ ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
ประกาศ ณ วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕
สาธิต รังคสิริ
(นายสาธิต รังคสิริ)
อธิบดีกรมสรรพากร