เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๒๑๘)
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
สำหรับเงินได้เท่าที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่งทรัพย์สินประเภทเครื่องจักร
ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย
__________________________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓ แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๓๖) พ.ศ. ๒๕๕๕ อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่งทรัพย์สินประเภทเครื่องจักรของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ทางราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ที่เกิดอุทกภัย และได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่จ่ายในระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่งทรัพย์สินประเภทเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตสินค้าหรือให้บริการรับจ้างผลิตสินค้า เป็นจำนวนร้อยละยี่สิบห้าของค่าใช้จ่ายนั้น ต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่ได้จ่ายไปจริงตั้งแต่วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ และต้องมีใบเสร็จรับเงินที่ผู้รับเงินได้ออกให้เป็นหลักฐานเพื่อการได้มาซึ่งเครื่องจักรดังกล่าว
พื้นที่ที่ทางราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ที่เกิดอุทกภัยตามวรรคหนึ่ง หมายถึง พื้นที่ที่ได้รับการประกาศเป็นพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๖ ทั้งนี้ กรณีในกรุงเทพมหานครเป็นไปตามประกาศของอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรณีในจังหวัดอื่นเป็นไปตามประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัด
ข้อ ๒ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามข้อ ๑ ต้องจัดทำรายงานแสดงรายละเอียดการได้มาซึ่งทรัพย์สินประเภทเครื่องจักรที่ใช้ผลิตสินค้าหรือให้บริการรับจ้างผลิตสินค้า โดยต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อยตามแบบที่แนบท้ายประกาศนี้ และเก็บรักษารายงานดังกล่าวรวมทั้งเอกสารประกอบกับการลงรายการในรายงานไว้พร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้
ข้อ ๓ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้แล้ว แต่ต่อมาปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๓๖) พ.ศ. ๒๕๕๕ และตามข้อ ๑ และข้อ ๒ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวไม่มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ และต้องนำเงินได้ที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ไปแล้วมารวมเป็นรายได้ในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลของรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นั้น และกรณีที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้เพิ่มเติมของรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นั้น บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร
ประกาศ ณ วันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕
สาธิต รังคสิริ
(นายสาธิต รังคสิริ)
อธิบดีกรมสรรพากร