ฉบับที่ ๒๙๐ (พ.ศ. ๒๕๕๕)
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
---------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔ แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๑๓ และมาตรา ๔๒ (๑๗) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๘๕) ของข้อ ๒ แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๐๙) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
“(๘๕) เงินได้จากการขายหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศสมาชิกอาเซียน ที่มีการซื้อขายผ่านระบบที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดให้มีขึ้นเพื่อเชื่อมโยงการซื้อขายกับตลาดหลักทรัพย์ในประเทศสมาชิกอาเซียน แต่ไม่รวมถึงเงินได้จากการขายหลักทรัพย์ที่เป็นตั๋วเงินคลัง พันธบัตร ตั๋วเงิน หรือหุ้นกู้”
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕
กิตติรัตน์ ณ ระนอง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ โดยที่รัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมให้มีการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สมควรกำหนดให้เงินได้จากการขายหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศสมาชิกอาเซียน ที่มีการซื้อขายผ่านระบบที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดให้มีขึ้นเพื่อเชื่อมโยงการซื้อขายกับตลาดหลักทรัพย์ในประเทศสมาชิกอาเซียน เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ เพื่อสร้างแรงจูงใจและส่งเสริมให้มีการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาคอาเซียน ลดต้นทุนการเข้าถึงตลาดหลักทรัพย์ และทำให้การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตลาดหลักทรัพย์ในประเทศสมาชิกอาเซียนเพิ่มมากยิ่งขึ้น รวมทั้งทำให้เกิดความเท่าเทียมกันทางภาษีระหว่างการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกับการขายหลักทรัพย์ในประเทศสมาชิกอาเซียน อันเป็นการสนับสนุนการพัฒนาตลาดทุนไทยในภาพรวมภายใต้กรอบแผนพัฒนาตลาดทุนไทย จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
(ร.จ.ฉบับกฤษฎีกา เล่ม ๑๒๙ ตอนที่ ๕๙ ก วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๕)