ฉบับที่ ๒๘๘ (พ.ศ. ๒๕๕๕)
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
----------------------
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔ แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๑๓ และมาตรา ๔๒ (๑๗) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กำหนดให้เงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายเป็นค่าซ่อมแซมหรือค่าวัสดุหรืออุปกรณ์ในการซ่อมแซมอาคารหรือทรัพย์สินที่ประกอบติดตั้งในลักษณะถาวรกับตัวอาคารหรือในที่ดินอันเป็นที่ตั้งของอาคาร หรือในการซ่อมแซมห้องชุดในอาคารชุดหรือทรัพย์สินที่ประกอบติดตั้งในลักษณะถาวรกับห้องชุดในอาคารชุด และจ่ายระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกินหนึ่งแสนบาท เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(๑) ทรัพย์สินนั้นเป็นทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ และอยู่ในพื้นที่ที่ทางราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ที่เกิดอุทกภัย
(๒) ผู้มีเงินได้ต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ผู้เช่า หรือผู้ใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินนั้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ใช้ประกอบกิจการ หรือใช้ประโยชน์อื่น
(๓) ในกรณีที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายค่าซ่อมแซมหรือค่าวัสดุหรืออุปกรณ์ในการซ่อมแซมทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งแห่ง ให้รวมคำนวณค่าซ่อมแซมหรือค่าวัสดุหรืออุปกรณ์ในการซ่อมแซมทรัพย์สินทุกแห่งเข้าด้วยกัน การได้รับยกเว้นตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามวิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด
ข้อ ๒ กำหนดให้เงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายเป็นค่าซ่อมแซมหรือค่าวัสดุหรืออุปกรณ์ในการซ่อมแซมรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์หรือกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก หรืออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในรถ และจ่ายระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกินสามหมื่นบาท เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(๑) รถหรืออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในรถนั้นเสียหายจากการถูกน้ำท่วมเนื่องจากอุทกภัยระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
(๒) ผู้มีเงินได้ต้องเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้เช่าซื้อรถนั้น
(๓) ในกรณีที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายค่าซ่อมแซมหรือค่าวัสดุหรืออุปกรณ์ในการซ่อมแซมรถหรืออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในรถมากกว่าหนึ่งคัน ให้รวมคำนวณค่าซ่อมแซมหรือค่าวัสดุหรืออุปกรณ์ในการซ่อมแซมรถทุกคันเข้าด้วยกันการได้รับยกเว้นตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามวิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด
ข้อ ๓ กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปีภาษี พ.ศ. ๒๕๕๔ และเงินได้พึงประเมินประจำปีภาษี พ.ศ. ๒๕๕๕ และเมื่อรวมเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นตามข้อ ๑ หรือข้อ ๒ ในสองปีภาษีดังกล่าวแล้ว ต้องไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือสามหมื่นบาท แล้วแต่กรณี
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๔ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕
กิตติรัตน์ ณ ระนอง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ โดยที่ได้เกิดอุทกภัยขึ้นในพื้นที่หลายจังหวัดของประเทศไทยตั้งแต่พ.ศ. ๒๕๕๔ ต่อเนื่องมาจนถึง พ.ศ. ๒๕๕๕ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษีให้แก่ผู้มีเงินได้ซึ่งได้รับความเสียหายจากอุทกภัยดังกล่าว สมควรกำหนดให้เงินได้พึงประเมินเท่าที่ผู้มีเงินได้ ซึ่งได้รับความเสียหายจากอุทกภัยระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ได้จ่ายในช่วงระยะเวลาดังกล่าว เพื่อเป็นค่าซ่อมแซมหรือค่าวัสดุหรืออุปกรณ์ ในการซ่อมแซมทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ในส่วนที่เป็นอาคารหรือทรัพย์สินที่ประกอบติดตั้งในลักษณะถาวรกับตัวอาคารหรือในที่ดินอันเป็นที่ตั้งของอาคาร หรือห้องชุดในอาคารชุดหรือทรัพย์สินที่ประกอบติดตั้งในลักษณะถาวรกับห้องชุดในอาคารชุด หรือรถหรืออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในรถที่เสียหายจากการถูกน้ำท่วมเนื่องจากอุทกภัย เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และจำนวนที่กำหนด จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
(ร.จ. ฉบับกฤษฎีกา เล่ม ๑๒๙ ตอนที่ ๓๙ ก วันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕)