ที่ ป. ๑๔๓/๒๕๕๕
เรื่อง ภาษีเงินได้นิติบุคคล การพิจารณาเหตุอันสมควร ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๔)
และกรณีคำนวณรายได้รายจ่าย ตามมาตรา ๖๕ วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร
-------------------
เพื่อให้เจ้าพนักงานสรรพากรถือเป็นแนวทางปฏิบัติในการตรวจและแนะนำสำหรับการพิจารณาเหตุอันสมควร ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๔) และกรณีคำนวณรายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา ๖๕ วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร กรมสรรพากรจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กรณีสถาบันการเงินซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ดังกล่าวเป็นเหตุให้สถาบันการเงินดังกล่าวต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือกระทำการอย่างอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน ให้ถือว่ากรณีมีเหตุอันสมควรที่สถาบันการเงินดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๔) แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ เฉพาะสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่กระทำในระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ และการลดดอกเบี้ยหรือการกระทำการอย่างอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกันตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้นั้น ได้กระทำในระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
ข้อ ๒ กรณีสถาบันการเงินซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัย ของสถาบันการเงินตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ดังกล่าวเป็นเหตุให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งเป็นลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยต้องโอนทรัพย์สินหรือให้บริการแก่สถาบันการเงินดังกล่าวโดยไม่มีค่าตอบแทน หรือมีค่าตอบแทน หรือค่าบริการต่ำกว่าราคาตลาด ให้ถือว่า การโอนทรัพย์สินหรือการให้บริการดังกล่าว มีเหตุอันสมควร ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๔) แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ เฉพาะสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ที่กระทำในระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ และการโอนทรัพย์สินหรือการให้บริการตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้นั้น ได้กระทำในระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
ข้อ ๓ กรณีสถาบันการเงินซึ่งเป็นเจ้าหนี้ได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัย ของสถาบันการเงินตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยที่ธนาคารแห่ง ประเทศไทยประกาศกำหนด และการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ดังกล่าวเป็นเหตุให้สถาบันการเงินดังกล่าวทำ สัญญาหรือข้อตกลงให้ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยชำระเงินต้นก่อนการชำระดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการ ให้ถือว่า เป็นกรณีที่อธิบดีกรมสรรพากรอนุมัติให้สถาบันการเงินดังกล่าวกระทำได้ตามมาตรา ๖๕ วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ เฉพาะสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่กระทำในระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ และการชำระเงินต้นก่อนการชำระดอกเบี้ยค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้นั้น ได้กระทำในระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
ข้อ ๔ ในข้อ ๑ ข้อ ๒ และข้อ ๓
“สถาบันการเงิน” หมายความว่า
(๑) สถาบันการเงินของรัฐที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น
(๒) สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน
(๓) บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยตามกฎหมายว่าด้วยบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย
(๔) บริษัทบริหารสินทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์
(๕) บริษัทที่ประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่มิใช่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน
(๖) บริษัทที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มิใช่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน
“ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัย” หมายความว่า ลูกหนี้ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนด
ข้อ ๕ ให้นำความในข้อ ๑ ข้อ ๒ และข้อ ๓ มาใช้บังคับกับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ระหว่าง เจ้าหนี้อื่นกับลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยของเจ้าหนี้อื่น ซึ่งได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้โดยนำหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศกำหนดมาใช้โดยอนุโลม ทั้งนี้ เฉพาะสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ที่กระทำระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ และการลดดอกเบี้ยหรือการกระทำอย่างอื่นที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน การโอนทรัพย์สินหรือการให้บริการ การชำระเงินต้นก่อนการชำระดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการ ตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้นั้น ได้กระทำในระหว่างวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
“เจ้าหนี้อื่น” หมายความว่า เจ้าหนี้ที่มิใช่สถาบันการเงิน ซึ่งได้ดำเนินการเจรจาร่วมกับสถาบันการเงินในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้แก่ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัย และได้ทำความตกลงเป็นหนังสือร่วมกับเจ้าหนี้ซึ่งเป็นสถาบันการเงิน
“ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยของเจ้าหนี้อื่น” หมายความว่า ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยของเจ้าหนี้อื่น ซึ่งเป็นลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินด้วย และให้หมายความรวมถึงผู้ค้ำประกันของลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยของเจ้าหนี้อื่นด้วย”
ข้อ ๖ คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕
สาธิต รังคสิริ
(นายสาธิต รังคสิริ)
อธิบดีกรมสรรพากร