พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่๕๖๒) พ.ศ. ๒๕๕๖

ข่าวการเมือง Tuesday May 28, 2013 15:50 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

พระราชกฤษฎีกา

ออกตามความในประมวลรัษฎากร

ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่๕๖๒)

พ.ศ. ๒๕๕๖

ภูมิพลอดุลยเดชป.ร.

ให้ไว้ณวันที่๒๙เมษายนพ.ศ. ๒๕๕๖

เป็นปีที่๖๘ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า

โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลบางกรณี

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา๑๘๗ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและมาตรา ๓ (๑) แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลซึ่งมาตรา๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายจึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ดังต่อไปนี้

มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า“พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่๕๖๒) พ.ศ. ๒๕๕๖”

มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป

มาตรา ๓ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน๒และส่วน๓หมวด๓ในลักษณะ๒แห่งประมวลรัษฎากรสำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละห้าสิบของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างเฉพาะในส่วนที่เป็นยอดรวมของส่วนต่างระหว่างอัตราค่าจ้างที่ได้จ่ายตั้งแต่วันที่๑มกราคมพ.ศ. ๒๕๕๖ เฉพาะส่วนที่ไม่เกินสามร้อยบาทกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้างเรื่องอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่๖) ลงวันที่๒พฤศจิกายนพ.ศ. ๒๕๕๔ หรืออัตราค่าจ้างเดิมแล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่าให้แก่

(๑) บุคคลธรรมดาซึ่งมีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา๔๐ (๕) (๖) (๗) หรือ (๘)แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากรรวมกันไม่เกินสามสิบล้านบาทต่อปีก่อนหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน

(๒) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกินห้าล้านบาทและมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวมกันไม่เกินสามสิบล้านบาทต่อปีในรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามวรรคหนึ่งต้องมีการจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในอัตราไม่น้อยกว่าวันละสามร้อยบาทระหว่างวันที่๑มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ถึงวันที่๓๑ธันวาคมพ.ศ. ๒๕๕๖

มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :-เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้คือโดยที่การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลกรณีนายจ้างที่ได้จ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างตั้งแต่สามร้อยบาทได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่๓๑ธันวาคมพ.ศ. ๒๕๕๕แต่เพื่อเป็นการส่งเสริมและจูงใจให้นายจ้างซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีส่วนร่วมในการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยการเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำและเพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสมควรยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับกรณีดังกล่าวต่อไปอีกระยะหนึ่งทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๖จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

(ร.จ. ฉบับกฤษฎีกา เล่ม ๑๓๐ ตอนที่ ๔๐ ก วันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ