ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๙๐)
พ.ศ. ๒๕๕๘
__________________
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
เป็นปีที่ ๗๐ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้ภาษีมูลค่าเพิ่มภาษีธุรกิจเฉพาะและอากรแสตมป์ บางกรณี
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา๒๒ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช๒๕๕๗และมาตรา๓(๑)แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร(ฉบับที่๑๐)พ.ศ.๒๔๙๖จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตรา พระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า"พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร(ฉบับที่๕๙๐)พ.ศ.๒๕๕๘"
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน๒และส่วน๓หมวด๓ภาษีมูลค่าเพิ่มตามหมวด๔ภาษีธุรกิจเฉพาะตามหมวด๕และอากรแสตมป์ตามหมวด๖ในลักษณะ๒แห่งประมวลรัษฎากรให้แก่ผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชนสำหรับเงินได้รายรับและสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินให้แก่โรงเรียนในระบบตามกฎหมาย ว่าด้วยโรงเรียนเอกชนเพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษาโดยไม่มีค่าตอบแทนทั้งนี้สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตั้งแต่วันที่๑๒มกราคม พ.ศ.๒๕๕๑เป็นต้นไป ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน๒และส่วน๓หมวด๓ภาษีมูลค่าเพิ่มตามหมวด๔ภาษีธุรกิจเฉพาะตามหมวด๕และอากรแสตมป์ตามหมวด๖ในลักษณะ๒แห่งประมวลรัษฎากรให้แก่ผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชนสำหรับเงินได้รายรับและสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นส่วนควบของที่ดินรวมทั้งทรัพย์สินใดๆที่ต้องใช้ในกิจการโรงเรียนให้แก่โรงเรียนในระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนเพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษา โดยไม่มีค่าตอบแทน ทั้งนี้สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตั้งแต่วันที่๑๐มิถุนายนพ.ศ.๒๕๕๔เป็นต้นไป
มาตรา ๔ ให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามหมวด๔ภาษีธุรกิจเฉพาะตามหมวด๕และอากรแสตมป์ตามหมวด๖ในลักษณะ๒แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่โรงเรียนในระบบตามกฎหมาย ว่าด้วยโรงเรียนเอกชนสำหรับรายรับและสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นส่วนควบของที่ดินรวมทั้งทรัพย์สินใดๆที่ต้องใช้ ในกิจการโรงเรียนคืนให้แก่ผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชนเจ้าของเดิมหรือทายาทโดยไม่มีค่าตอบแทนเมื่อโรงเรียนในระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนเลิกใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือเลิกกิจการทั้งนี้สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตั้งแต่วันที่๑๐มิถุนายนพ.ศ.๒๕๕๔เป็นต้นไป
มาตรา ๕ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน๒และส่วน๓หมวด๓ภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามหมวด๕และอากรแสตมป์ตามหมวด๖ในลักษณะ๒แห่งประมวลรัษฎากรให้แก่ผู้บริจาคที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นส่วนควบของที่ดินให้แก่โรงเรียนในระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน สำหรับเงินได้รายรับและสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นส่วนควบของที่ดินให้แก่โรงเรียนในระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนเพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษา โดยผู้บริจาคต้องไม่นำต้นทุนของทรัพย์สินดังกล่าวมาหักเป็นรายจ่าย ในการคำนวณภาษีทั้งนี้ สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่วันที่๑๐มิถุนายนพ.ศ.๒๕๕๔เป็นต้นไป
มาตรา ๖ ให้ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะตามหมวด๕และอากรแสตมป์ตามหมวด๖ในลักษณะ๒แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่โรงเรียนในระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนสำหรับรายรับและสำหรับการกระทำตราสารอันเนื่องมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นส่วนควบของที่ดินคืนให้แก่ผู้บริจาคหรือทายาทโดยไม่มีค่าตอบแทนเมื่อโรงเรียนในระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนเลิกใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือเลิกกิจการทั้งนี้สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่วันที่๑๐มิถุนายนพ.ศ.๒๕๕๔เป็นต้นไป มาตรา ๗ ให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามส่วน๒และส่วน๓หมวด๓ในลักษณะ๒แห่งประมวลรัษฎากรให้แก่ผู้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนเอกชนเจ้าของเดิมผู้บริจาคหรือทายาท แล้วแต่กรณีสำหรับเงินได้อันเนื่องมาจากการรับโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นส่วนควบของที่ดินรวมทั้งทรัพย์สินใดๆที่ต้องใช้ในกิจการโรงเรียนจากโรงเรียนในระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนโดยไม่มีค่าตอบแทนทั้งนี้สำหรับการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตั้งแต่วันที่๑๐มิถุนายนพ.ศ.๒๕๕๔เป็นต้นไป มาตรา ๘ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี