ออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ๖๐๐)
พ.ศ. ๒๕๕๙
_______________
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๙
เป็นปีที่ ๗๑ ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรลดอัตราภาษีเงินได้สำหรับบุคคลธรรมดา
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา๒๒ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ และมาตรา ๓(๑) แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ.๒๔๙๖ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตรา พระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่าว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ๖๐๐) พ.ศ. ๒๕๕๙"
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา ๓ ให้ลดอัตราภาษีเงินได้ตาม (๑) สำหรับบุคคลธรรมดา ของบัญชีอัตราภาษีเงินได้ท้ายหมวด ๓ ในลักษณะ๒แห่งประมวลรัษฎากรซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๑๖) พ.ศ. ๒๕๓๔ สำหรับเงินได้สุทธิที่ได้รับในปีพ.ศ. ๒๕๕๙ ดังต่อไปนี้
(๑) เงินได้สุทธิไม่เกินหนึ่งแสนบาทให้คงจัดเก็บในอัตราร้อยละห้า
(๒) เงินได้สุทธิเฉพาะส่วนที่เกินหนึ่งแสนบาทแต่ไม่เกินสามแสนบาทให้จัดเก็บในอัตราลดลงจากร้อยละสิบให้เหลือร้อยละห้าสำหรับเงินได้สุทธิส่วนที่เกินสามแสนบาท แต่ไม่เกินห้าแสนบาทให้คงจัดเก็บในอัตราร้อยละสิบ
(๓) เงินได้สุทธิเฉพาะส่วนที่เกินห้าแสนบาทแต่ไม่เกินเจ็ดแสนห้าหมื่นบาทให้จัดเก็บในอัตราลดลงจากร้อยละยี่สิบให้เหลือร้อยละสิบห้าสำหรับเงินได้สุทธิส่วนที่เกินเจ็ดแสนห้าหมื่นบาทแต่ไม่เกินหนึ่งล้านบาทให้คงจัดเก็บในอัตราร้อยละยี่สิบ
(๔) เงินได้สุทธิเฉพาะส่วนที่เกินหนึ่งล้านบาทแต่ไม่เกินสองล้านบาทให้จัดเก็บในอัตราลดลงจากร้อยละสามสิบให้เหลือร้อยละยี่สิบห้าสำหรับเงินได้สุทธิส่วนที่เกินสองล้านบาทแต่ไม่เกินสี่ล้านบาท ให้คงจัดเก็บในอัตราร้อยละสามสิบ
(๕) เงินได้สุทธิส่วนที่เกินสี่ล้านบาทให้จัดเก็บในอัตราลดลงจากร้อยละสามสิบเจ็ดให้เหลือร้อยละสามสิบห้า
มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี