ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ( ฉบับที่ 97)
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์สำหรับเงินสำรองที่กันไว้เป็นค่าเผื่อหนี้สูญหรือหนี้สงสัยจะสูญ
ของนิติบุคคลเฉพาะกิจ
___________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 389) พ.ศ. 2544 อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับเงินสำรองที่กันไว้เป็นค่าเผื่อหนี้สูญหรือหนี้สงสัยจะสูญของนิติบุคคลเฉพาะกิจ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 กรณีการกันสำรองตามปกติทั่วไป กำหนดให้นิติบุคคลเฉพาะกิจ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ กันสำรองไว้เป็นอัตราร้อยละของยอดลูกหนี้รวมในอัตราไม่เกินอัตราหนี้สูญในอดีตของลูกหนี้ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับลูกหนี้ตามโครงการที่ได้ยื่นไว้กับสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และผู้ยื่นโครงการได้แสดงไว้ในเอกสารเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ลงทุน
ข้อ 2 กรณีการกันสำรองตามมูลเหตุเฉพาะของลูกหนี้แต่ละราย กำหนดให้กันสำรองไว้ ดังนี้
(1) ส่วนดอกเบี้ยค้างชำระ ในกรณีที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ให้กันสำรองไว้เท่ากับจำนวนดอกเบี้ยที่ได้รับรู้เป็นรายได้ไปแล้วทั้งจำนวน
(2) ส่วนเงินต้น ให้กันสำรองไว้เป็นอัตราร้อยละของเงินต้น ตามระยะเวลาที่ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้เงินต้นหรือดอกเบี้ย ดังนี้
(ก) ลูกหนี้ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือนนับแต่วันครบกำหนดชำระ ให้กันสำรองไว้ไม่เกินร้อยละ 2 ของเงินต้นที่ค้างชำระทั้งหมด
(ข) ลูกหนี้ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือนนับแต่วันครบกำหนดชำระให้กันสำรองไว้ไม่เกินร้อยละ 20 ของเงินต้นที่ค้างชำระทั้งหมด
(ค) ลูกหนี้ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 6 เดือน แต่ไม่เกิน 12 เดือนนับแต่วันครบกำหนดชำระให้กันสำรองไว้ไม่เกินร้อยละ 50 ของเงินต้นที่ค้างชำระทั้งหมด
(ง) ลูกหนี้ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 12 เดือนนับแต่วันครบกำหนดชำระให้กันสำรองไว้ไม่เกินร้อยละ 100 ของเงินต้นที่ค้างชำระทั้งหมด
ข้อ 3 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2544 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2544
ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล
(นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล)
อธิบดีกรมสรรพากร
--บริการสารสรรพากร--
-รอ-
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์สำหรับเงินสำรองที่กันไว้เป็นค่าเผื่อหนี้สูญหรือหนี้สงสัยจะสูญ
ของนิติบุคคลเฉพาะกิจ
___________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 389) พ.ศ. 2544 อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับเงินสำรองที่กันไว้เป็นค่าเผื่อหนี้สูญหรือหนี้สงสัยจะสูญของนิติบุคคลเฉพาะกิจ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 กรณีการกันสำรองตามปกติทั่วไป กำหนดให้นิติบุคคลเฉพาะกิจ ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ กันสำรองไว้เป็นอัตราร้อยละของยอดลูกหนี้รวมในอัตราไม่เกินอัตราหนี้สูญในอดีตของลูกหนี้ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับลูกหนี้ตามโครงการที่ได้ยื่นไว้กับสำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และผู้ยื่นโครงการได้แสดงไว้ในเอกสารเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ลงทุน
ข้อ 2 กรณีการกันสำรองตามมูลเหตุเฉพาะของลูกหนี้แต่ละราย กำหนดให้กันสำรองไว้ ดังนี้
(1) ส่วนดอกเบี้ยค้างชำระ ในกรณีที่ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ให้กันสำรองไว้เท่ากับจำนวนดอกเบี้ยที่ได้รับรู้เป็นรายได้ไปแล้วทั้งจำนวน
(2) ส่วนเงินต้น ให้กันสำรองไว้เป็นอัตราร้อยละของเงินต้น ตามระยะเวลาที่ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้เงินต้นหรือดอกเบี้ย ดังนี้
(ก) ลูกหนี้ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 1 เดือน แต่ไม่เกิน 3 เดือนนับแต่วันครบกำหนดชำระ ให้กันสำรองไว้ไม่เกินร้อยละ 2 ของเงินต้นที่ค้างชำระทั้งหมด
(ข) ลูกหนี้ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือนนับแต่วันครบกำหนดชำระให้กันสำรองไว้ไม่เกินร้อยละ 20 ของเงินต้นที่ค้างชำระทั้งหมด
(ค) ลูกหนี้ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 6 เดือน แต่ไม่เกิน 12 เดือนนับแต่วันครบกำหนดชำระให้กันสำรองไว้ไม่เกินร้อยละ 50 ของเงินต้นที่ค้างชำระทั้งหมด
(ง) ลูกหนี้ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 12 เดือนนับแต่วันครบกำหนดชำระให้กันสำรองไว้ไม่เกินร้อยละ 100 ของเงินต้นที่ค้างชำระทั้งหมด
ข้อ 3 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2544 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2544
ศุภรัตน์ ควัฒน์กุล
(นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล)
อธิบดีกรมสรรพากร
--บริการสารสรรพากร--
-รอ-