เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๑๗)
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การยกเว้นภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องกับ
อุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
________________
อาศัยอำนาจตามความในตามมาตรา ๔ และมาตรา ๗ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน ประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๖๔๐) พ.ศ. ๒๕๖๐ อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การยกเว้นภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละ หนึ่งร้อยของรายจ่ายเท่าที่ได้จ่ายเพื่อการลงทุนในอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขดังต่อไปนี้
(๑) เป็นการจ่ายเพื่อการลงทุนในอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเกิดขึ้นจากสัญญาที่ได้กระทาตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ และต้องเริ่มต้นหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาภายในกำหนดเวลาดังกล่าว
(๒) เป็นรายจ่ายที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อการลงทุนในอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นทรัพย์สิน ตามมาตรา ๖๕ ตรี (๕) แห่งประมวลรัษฎากร โดยให้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามจำนวนที่ได้จ่ายไปจริงในรอบระยะเวลาบัญชี ที่เริ่มต้นหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน ตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร
(๓) ต้องจัดทารายงานข้อมูลการติดตั้งและยกเลิกการติดตั้งอุปกรณ์รับชำระเงิน ทางอิเล็กทรอนิกส์ตามโครงการลงทุนที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติหรือผู้ที่คณะกรรมการดังกล่าวมอบหมาย พร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้
ข้อ ๒ การยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับเงินได้เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าธรรมเนียมจากการรับชำระเงินด้วยบัตรเดบิตผ่านอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้จ่ายตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขดังต่อไปนี้
(๑) ค่าธรรมเนียมจากการรับชำระเงินด้วยบัตรเดบิตผ่านอุปกรณ์รับชำระเงิน ทางอิเล็กทรอนิกส์ที่จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ หมายถึง ค่าธรรมเนียมส่วนลดร้านค้า (Merchant Discount Rate : MDR) ที่บุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลได้จ่ายให้แก่ผู้ให้บริการอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เนื่องจากการรับชำระเงินด้วยบัตรเดบิตผ่านอุปกรณ์รับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว
(๒) ต้องไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตาม (๑) จากผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
(๓) ต้องมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่ามีการจ่ายค่าธรรมเนียมตาม (๑) พร้อมให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้
(๔) กรณีบุคคลธรรมดาที่จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขดังต่อไปนี้
(ก) มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๕) (๖) (๗) หรือ (๘) แห่งประมวลรัษฎากร
(ข) จ่ายค่าธรรมเนียมตาม (๑) เพื่อรับชำระเงินซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตาม (ก)
(ค) หากประสงค์จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าธรรมเนียมตาม (ข) สำหรับเงินได้พึงประเมินประเภทใด ในการคานวณภาษีเงินได้ตามมาตรา ๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร จะต้องหักค่าใช้จ่ายสำหรับเงินได้พึงประเมินประเภทนั้นตามความจำเป็นและสมควร และต้องมีเอกสารหลักฐานการจ่ายค่าธรรมเนียมแยกตามประเภทเงินได้พึงประเมินที่เลือกใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้พร้อมให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้
(ง) ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยนาเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีไปคานวณหักจากเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อได้หักตามมาตรา ๔๒ ทวิ ถึงมาตรา ๔๖ แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว
ข้อ ๓ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
ประสงค์ พูนธเนศ
(นายประสงค์ พูนธเนศ)
อธิบดีกรมสรรพากร
ที่มา: http://www.rd.go.th