ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๒๒) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สาหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการหรือค่าที่พักสาหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรอง

ข่าวทั่วไป Monday June 18, 2018 11:00 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร

เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๒๒)

เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สาหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่าย

เป็นค่าบริการหรือค่าที่พักสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรอง หรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใด

ที่อธิบดีประกาศกำหนด

__________

อาศัยอำนาจตามความในกฎกระทรวง ฉบับที่ ๓๓๕ (พ.ศ. ๒๕๖๑) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สาหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการหรือค่าที่พักสาหรับการเดินทางท่องเที่ยว ในจังหวัดท่องเที่ยวรอง หรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนด ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ในประกาศนี้

"ผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยว" หมายความว่า ผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยวที่ได้รับใบอนุญาต ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนาเที่ยวและมัคคุเทศก์

"ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม" หมายความว่า ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ได้รับใบอนุญาต ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม

"ผู้ประกอบกิจการโฮมสเตย์ไทย" หมายความว่า ผู้ประกอบกิจการให้บริการที่พัก โฮมสเตย์ไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยจากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยว และกีฬา

ข้อ ๒ การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สาหรับเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายเป็นค่าบริการหรือค่าที่พัก สาหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรอง หรือในพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนด ที่ได้จ่ายไปตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

(๑) เป็นเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายเป็นค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยว ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนาเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาหรับการเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรอง หรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยคาแนะนาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

(๒) เป็นเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายเป็นค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยว ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจนาเที่ยวและมัคคุเทศก์ สาหรับการเดินทางท่องเที่ยวในท้องที่ใดท้องที่หนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวรองร่วมกับท้องที่ในเขตจังหวัดอื่น ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

(๓)เป็นเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายเป็นค่าที่พักในโรงแรมในจังหวัดท่องเที่ยวรอง หรือในเขตพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นใดที่อธิบดีประกาศกำหนดโดยคาแนะนาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม

(๔)เป็นเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายเป็นค่าที่พักโฮมสเตย์ไทยในจังหวัดท่องเที่ยวรอง ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโฮมสเตย์ไทยจากกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

(๕)เป็นผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล ให้ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามจานวนที่จ่ายจริง แต่รวมกันทั้งหมดแล้ว ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท

(๖)กรณีสามีหรือภริยามีเงินได้ฝ่ายเดียว ให้ยกเว้นภาษีให้แก่สามีหรือภริยาซึ่งเป็น ผู้มีเงินได้ตามจานวนที่ผู้มีเงินได้ได้จ่ายจริงแต่ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท

(๗)กรณีสามีภริยาต่างฝ่ายต่างมีเงินได้

(ก) ถ้าต่างฝ่ายต่างยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินที่ตนได้รับ หรือแยกยื่นรายการและเสียภาษีเฉพาะส่วนที่เป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร โดยไม่ถือเป็นเงินได้ของอีกฝ่ายหนึ่ง ตามมาตรา ๕๗ ฉ แห่งประมวลรัษฎากร ให้ต่างฝ่ายต่างได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ ตามจานวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท

(ข) ถ้าสามีภริยาตกลงยื่นรายการและเสียภาษีรวมกัน โดยถือเอาเงินได้พึงประเมินของตนเป็นเงินได้ของสามีหรือภริยาอีกฝ่ายหนึ่งตามมาตรา ๕๗ ฉ แห่งประมวลรัษฎากร ให้ผู้มีเงินได้ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามจานวนที่จ่ายจริง เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท และได้รับยกเว้นภาษี ส่วนของสามีหรือภริยาได้ตามจานวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน ๑๕,๐๐๐ บาท

ข้อ ๓ ผู้มีเงินได้ต้องเป็นผู้จ่ายค่าบริการหรือค่าที่พักตามข้อ ๒ เพื่อการเดินทางท่องเที่ยว ของผู้มีเงินได้

ข้อ ๔ ผู้มีเงินได้ต้องมีหลักฐานการรับเงินจากผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยว ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม หรือผู้ประกอบกิจการโฮมสเตย์ไทย โดยระบุชื่อผู้มีเงินได้ จานวนเงิน วัน เดือน ปี ที่จ่ายเงิน ทั้งนี้ หากเป็นการจ่ายค่าบริการ ตามข้อ ๒ (๒) ผู้ประกอบธุรกิจนาเที่ยวต้องระบุลาดับที่ได้รับการรับรองเส้นทางท่องเที่ยวจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในหลักฐานการรับเงินด้วย

ข้อ ๕ การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามประกาศนี้ ให้ผู้มีเงินได้มีสิทธินาเงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษี ไปคานวณหักจากเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ แห่งประมวลรัษฎากร หลังจากหักค่าใช้จ่ายตามมาตรา ๔๒ ทวิ ถึงมาตรา ๔๖ แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว

ข้อ ๖ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑

เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ

(นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)

อธิบดีกรมสรรพากร

ที่มา: http://www.rd.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ