เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๒๔)
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการอุดหนุนเงินภาษีให้แก่พรรคการเมือง
____________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖๙ และมาตรา ๑๔๙ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. ๒๕๖๐ อธิบดีกรมสรรพากรจึงกำหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการอุดหนุนเงินภาษีให้แก่พรรคการเมืองไว้ดังต่อไปนี้
ต้องเป็นบุคคลธรรมดา มีสัญชาติไทย และเมื่อคำนวณภาษีตามประมวลรัษฎากรตามแบบแสดงรายการภาษี ข้อ ๑ การแสดงเจตนาอุดหนุนเงินภาษีให้แก่พรรคการเมืองผู้เสียภาษีที่จะอุดหนุนเงินภาษีได้เงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีแล้วมีภาษีที่ต้องชำระ ผู้เสียภาษีสามารถแสดงเจตนาอุดหนุนเงินภาษีให้แก่พรรคการเมืองได้ไม่เกินจำนวนภาษีที่ต้องชำระนั้น ทั้งนี้ ไม่เกินห้าร้อยบาท โดยให้กระทำได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนี้
(๑) ต้องแสดงเจตนาไว้ในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีโดยต้องระบุให้ชัดเจนว่าประสงค์จะอุดหนุนเงินภาษีให้แก่พรรคการเมืองหรือไม่อุดหนุน ต้องระบุรหัสรายชื่อพรรคการเมือง ที่ต้องการอุดหนุน และต้องระบุจำนวนเงินภาษีที่ประสงค์จะอุดหนุน หากไม่ระบุความประสงค์หรือไม่ระบุรหัสรายชื่อพรรคการเมืองหรือไม่ระบุจำนวนเงินภาษีที่ประสงค์จะอุดหนุนให้ถือว่าไม่ได้แสดงเจตนาอุดหนุนเงินภาษีให้แก่พรรคการเมือง
การระบุจำนวนเงินภาษีที่ประสงค์จะอุดหนุนตามวรรคหนึ่ง กรณีที่ระบุจำนวนเงินภาษีที่ประสงค์ จะอุดหนุนเกินกว่าจำนวนเงินภาษีที่ต้องชำระหรือเกินกว่าห้าร้อยบาท ให้ถือว่าประสงค์จะอุดหนุนเงินภาษีเพียงจำนวนเงินภาษีที่ต้องชำระนั้น หรือจำนวนห้าร้อยบาทแล้วแต่กรณี
(๒) แสดงเจตนาอุดหนุนเงินภาษีได้เพียงหนึ่งพรรคการเมืองและเมื่อได้แสดงเจตนาแล้วจะเปลี่ยนแปลงมิได้
หากแสดงเจตนาเกินกว่าหนึ่งพรรคการเมือง ให้ถือว่าไม่ประสงค์จะอุดหนุนเงินภาษีให้พรรคการเมืองใด
(๓) เงินภาษีที่ได้แสดงเจตนาอุดหนุนให้แก่พรรคการเมืองตามประกาศนี้ห้ามมิให้นำไปหักเป็นค่าลดหย่อนตามมาตรา ๔๗ แห่งประมวลรัษฎากร
(๔) กรณีสามีภริยาต่างฝ่ายต่างเป็นผู้เสียภาษีและยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีรวมกันและรวมคำนวณภาษี ให้ต่างฝ่ายต่างมีสิทธิระบุความประสงค์ของตนเองในแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี
ข้อ ๒ พรรคการเมืองที่ผู้เสียภาษีจะแสดงเจตนาอุดหนุนเงินภาษีให้ได้ในปีภาษีใดจะต้องเป็นพรรคการเมืองที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนพรรคการเมืองในปีภาษีนั้น
พรรคการเมืองตามวรรคหนึ่งที่สิ้นสุดความเป็นพรรคการเมืองตามกฎหมายในปีภาษีใดให้ถือเสมือนว่าไม่มีพรรคการเมืองนั้นที่จะได้รับการแสดงเจตนาอุดหนุนเงินภาษีในปีภาษีนั้น
ข้อ ๓ ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งแจ้งรายชื่อและรหัสของพรรคการเมืองตามข้อ ๒ ต่ออธิบดีกรมสรรพากรเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ทราบเพื่อใช้สิทธิตามประกาศนี้
ข้อ ๔ ให้กรมสรรพากรจัดทำรายชื่อพรรคการเมืองที่ได้รับการอุดหนุนเงินภาษีพร้อมจำนวนเงินภาษีที่ได้รับการอุดหนุนทั้งหมดส่งให้นายทะเบียนพรรคการเมือง พร้อมกับโอนเงินดังกล่าวให้กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองเพื่อโอนต่อให้พรรคการเมืองที่ได้รับการอุดหนุนเงินภาษีนั้นต่อไป
ในกรณีที่พรรคการเมืองใดสิ้นสุดความเป็นพรรคการเมืองตามกฎหมายก่อนที่กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองจะโอนเงินให้แก่พรรคการเมืองนั้น ให้กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองดำเนินการโอน เงินภาษีที่ได้อุดหนุนให้พรรคการเมืองนั้นกลับคืนเป็นรายได้แผ่นดิน
ข้อ ๕ ในกรณีมีปัญหาในการปฏิบัติ ให้อธิบดีกรมสรรพากรมีอำนาจวินิจฉัย และคำวินิจฉัยของอธิบดีกรมสรรพากรให้ถือเป็นหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดตามประกาศนี้ด้วย
ข้อ ๖ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับสำหรับการแสดงเจตนาอุดหนุนเงินภาษีในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษี พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่ต้องยื่นรายการใน พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นต้นไป๖ สิงหาคม
ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ
(นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)
อธิบดีกรมสรรพากร
ที่มา: http://www.rd.go.th