เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๓๕)
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการลดอัตราภาษีเงินได้
สำหรับเงินได้ที่ได้รับตามสัญญาจ้างแรงงานของผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ หรือนักวิจัย
จากการเป็นลูกจ้างในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมาย
__________________________________
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ๖๔๑) พ.ศ. ๒๕๖๐ อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อการลดอัตราภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ได้รับเนื่องจากการจ้างแรงงานของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมาย ดังต่อไปนี้
ให้ยกเลิกความในวรรคหนึ่งของข้อ ๒ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๐๖) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการลดอัตราภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ได้รับตามสัญญาจ้างแรงงานของผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ หรือนักวิจัยจากการเป็นลูกจ้างในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมาย ลงวันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๓๑๐) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการลดอัตราภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ได้รับตามสัญญาจ้างแรงงานของผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญ หรือนักวิจัยจากการเป็นลูกจ้างในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมาย ลงวันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"ข้อ ๒ ผู้มีเงินได้ตามข้อ ๑ จะต้องมีเงินได้ซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร จากการปฏิบัติงานตามสัญญาจ้างแรงงานกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งได้รับสิทธิและประโยชน์ตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ ๔/๒๕๖๐ เรื่อง มาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ลงวันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๐ หรือประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ ๖/๒๕๖๑ เรื่อง มาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ลงวันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ดังนี้
(๑) กรณีผู้มีเงินได้มีเงินได้จากการปฏิบัติงานในกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายเท่านั้น จะต้องมีเงินได้ดังกล่าว ไม่น้อยกว่า ๒๐๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน
(๒) กรณีผู้มีเงินได้มีเงินได้จากการปฏิบัติงานในกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายและกิจการอื่น จะต้องกำหนดในสัญญาจ้างแรงงานอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเงินได้ในส่วนที่ปฏิบัติงานในกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งต้องมีจานวนไม่น้อยกว่า ๒๐๐,๐๐๐ บาทต่อเดือน โดยจะได้รับสิทธิลดอัตราภาษีเงินได้ตามมาตรา ๔ แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ๖๔๑) พ.ศ. ๒๕๖๐ เฉพาะเงินได้จากการปฏิบัติงานในกิจการอุตสาหกรรมเปาหมายตามสัญญาจ้างแรงงานเท่านั้น"
ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๒
เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ
(นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)
อธิบดีกรมสรรพากร
ที่มา: http://www.rd.go.th