ประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๓๐) เรื่อง กำหนดคุณลักษณะ และหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ขายสินค้าให้ผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร มีสิทธิขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกเรียกเก็บไว้แล้วได้

ข่าวทั่วไป Monday October 7, 2019 13:21 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร

เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๓๐)

เรื่อง กำหนดคุณลักษณะ และหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบการจดทะเบียน

ที่ขายสินค้าให้ผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร

มีสิทธิขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกเรียกเก็บไว้แล้วได้ ตามมาตรา ๘๔/๔ แห่งประมวลรัษฎากร

______________

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘๔/๔ แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๓๔) พ.ศ. ๒๕๔๑ อธิบดีกรมสรรพากร กำหนดคุณลักษณะ และหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ขายสินค้าให้ผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรมีสิทธิขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกเรียกเก็บไว้แล้วได้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความในข้อ ๑ วรรคสอง ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๙๐) เรื่อง กำหนดคุณลักษณะ และหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ขายสินค้าให้ผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรมีสิทธิขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกเรียกเก็บไว้แล้วได้ ตามมาตรา ๘๔/๔ แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

"คำขออนุมัติให้ยื่นตามแบบที่อธิบดีกำหนด โดยให้ยื่นผ่านสรรพากรพื้นที่ในเขตท้องที่ ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ ในกรณีที่มีสถานประกอบการหลายแห่งให้ยื่นผ่านสรรพากรพื้นที่ในเขตท้องที่ที่สานักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ หรือยื่นคำขออนุมัติผ่านทางเว็บไซต์กรมสรรพากร สำหรับผู้ประกอบการ ที่อยู่ในการกำกับดูแลของกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ ให้ยื่นผ่านกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ หรือยื่นคำขออนุมัติผ่านทางเว็บไซต์กรมสรรพากร"

ข้อ ๒ ให้เพิ่มเติมความดังต่อไปนี้ เป็น ๑.๓ ของข้อ ๑ วรรคสาม ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๙๐) เรื่อง กำหนดคุณลักษณะ และหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ขายสินค้าให้ผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรมีสิทธิขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกเรียกเก็บไว้แล้วได้ ตามมาตรา ๘๔/๔ แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒

"๑.๓ เป็นผู้มีสิทธิออกใบกำกับภาษีด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามมาตรา ๓ โสฬส แห่งประมวลรัษฎากร"

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความใน ๓.๒ ของข้อ ๓ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๙๐) เรื่อง กำหนดคุณลักษณะ และหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ ขายสินค้าให้ผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรมีสิทธิขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกเรียกเก็บไว้แล้วได้ ตามมาตรา ๘๔/๔ แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

"๓.๒ จัดทำคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มและสาเนาคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามแบบที่อธิบดีกำหนด (ภ.พ.๑๐) ให้แก่ผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยส่งมอบต้นฉบับคำร้องขอคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มให้ผู้เดินทาง และเก็บรักษาสาเนาคำร้องอีกหนึ่งฉบับไว้ ณ สถานประกอบการ

ในกรณีที่ผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรมีความประสงค์ที่จะขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกเรียกเก็บไว้แล้วจากการซื้อสินค้าที่เป็น อัญมณีที่ประกอบขึ้นเป็นตัวเรือน หรือของรูปพรรณ ทองรูปพรรณ นาฬิกา แว่นตา ปากกา โทรศัพท์แบบพกพาหรือสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์แบบพกพา กระเป๋าถือ (ไม่รวมถึงกระเป๋าเดินทาง) เข็มขัด ที่มีมูลค่าการซื้อสินค้าแต่ละชิ้นตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทขึ้นไป หรือสินค้าที่สามารถนาติดตัวไปพร้อมกับการเดินทางที่มีมูลค่าการซื้อสินค้าต่อชิ้นตั้งแต่ห้าหมื่นบาทขึ้นไป ให้ผู้ประกอบการประทับข้อความ "Item No........ must also be presented to Revenue Officer" ลงในคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.๑๐)

แบบคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้คำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.๑๐) ที่กรมสรรพากรจัดพิมพ์ขึ้น หรือแบบคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.๑๐) ที่ได้จัดทำขึ้น โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดไว้เท่านั้น เว้นแต่อธิบดีจะสั่งเป็นอย่างอื่น

ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความในข้อ ๔ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๙๐) เรื่อง กำหนดคุณลักษณะ และหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ขายสินค้าให้ผู้เดินทางออกไป นอกราชอาณาจักร ซึ่งผู้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรมีสิทธิขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกเรียกเก็บไว้แล้วได้ ตามมาตรา ๘๔/๔ แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

"ข้อ ๔ ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ได้รับอนุมัติตามข้อ ๑ ขอรับคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.๑๐) ที่สานักงานสรรพากรพื้นที่ในเขตท้องที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ หรือกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ สำหรับรายที่อยู่ในการกำกับดูแลของกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ และในกรณีที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีสถานประกอบการหลายแห่ง ให้ขอรับคำร้องดังกล่าว เป็นรายสถานประกอบการ โดยขอรับได้ที่สานักงานสรรพากรพื้นที่ หรือกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่

การขอรับคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอต่อสรรพากรพื้นที่ หรือผู้อานวยการกองบริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่ ก่อนวันคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.๑๐) ไม่น้อยกว่า ๗ วันทำการ โดยแนบสาเนารายงานการจัดทำคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.๑๐) ฉบับปัจจุบันประกอบการขอรับคำร้องดังกล่าวด้วย"ข้อ ๕ ประกาศนี้ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ ๑๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นต้นไป

ประกาศ ณ วันที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๒

เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ

(นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)

อธิบดีกรมสรรพากร

ที่มา: http://www.rd.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ