คำสั่งกรมสรรพากร
ที่ ท.ป. ๓๒๖ /๒๕๖๓
เรื่อง มอบอำนาจให้สรรพากรภาคสั่งและปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร
______________
เพื่อให้การปฏิบัติราชการเกี่ยวกับภาษีเงินได้สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามประมวลรัษฎากร ซึ่งใช้เงินตราสกุลอื่นนอกจากเงินตราไทยเป็นสกุลเงินที่ใช้ในการดำเนินงาน เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ บริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๕๐ ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการมอบอำนาจ พ.ศ. ๒๕๕๐ และมาตรา ๒ แห่งประมวลรัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากรจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (๑๑) (๑๒) (๑๓) และ (๑๔)ของข้อ ๒ ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.๑๓๐/๒๕๔๖ เรื่อง มอบอำนาจให้สรรพากรภาคสั่งและปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร ลงวันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๖
"(๑๑) การรับแจ้งเพื่อใช้เงินตราสกุลอื่นนอกจากเงินตราไทยเป็นสกุลเงินที่ใช้ ในการดำเนินงานของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามมาตรา ๗๖ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร
(๑๒) การอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงสกุลเงินที่ใช้ในการดำเนินงานของบริษัทหรือ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามมาตรา ๗๖ ตรี แห่งประมวลรัษฎากร
(๑๓) การอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงวิธีการคำนวณค่าหรือราคำของเงินตรา ทรัพย์สิน หรือหนี้สินที่เหลืออยู่ในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีให้เป็นสกุลเงินที่ใช้ในการดำเนินงาน ตามมาตรา ๗๖ เบญจ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร
(๑๔) การอนุมัติให้ใช้อัตราอื่นเฉพาะส่วนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ได้คำนวณไว้ ตามมาตรา ๗๖ เบญจ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร"
ข้อ ๒ คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ ๑๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๓
เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ
(นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)
อธิบดีกรมสรรพากร
ที่มา: http://www.rd.go.th