กฎกระทรวงฉบับที่ ๓๖๙ (พ.ศ. ๒๕๖๓) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการปรับปรุงรายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน

ข่าวทั่วไป Friday November 6, 2020 11:28 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

กฎกระทรวง

ฉบับที่ ๓๖๙ (พ.ศ. ๒๕๖๓)

ออกตามความในประมวลรัษฎากร

ว่าด้วยการปรับปรุงรายได้และรายจ่าย

ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน

_________________

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๑๓ และมาตรา ๗๑ ทวิ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๔๗) พ.ศ. ๒๕๖๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ในกฎกระทรวงนี้

"บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน" หมายความว่า บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันตามมาตรา ๗๑ ทวิ วรรคสอง

"ข้อกำหนดทางด้านการพาณิชย์หรือการเงิน" หมายความว่า ข้อกำหนด ข้อตกลง หรือสัญญาใด ๆ ที่เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการ การตลาด การโฆษณา หรือการอื่นใด ในทางพาณิชย์ หรือที่เกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน การให้ความช่วยเหลือหรือความร่วมมือทางการเงิน หรือการอื่นใดในทางการเงิน ไม่ว่าจะมีการทาเป็นหนังสือหรือไม่ก็ตาม

ข้อ ๒ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันซึ่งมีข้อกำหนดทางด้าน การพาณิชย์หรือการเงินระหว่างกันแตกต่างไปจากที่ควรได้กำหนดหากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าวได้ดำเนินการโดยอิสระ ในลักษณะที่เชื่อได้ว่ามีการถ่ายโอนกาไร จะต้องเข้าลักษณะ ดังต่อไปนี้

(๑) มีข้อกำหนดทางด้านการพาณิชย์หรือการเงินระหว่างกัน

(๒) ข้อกำหนดดังกล่าวแตกต่างไปจากข้อกำหนดในลักษณะเดียวกันที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ดำเนินการโดยอิสระควรได้กำหนด

(๓) ข้อกำหนดดังกล่าวมีผลทาให้เกิดการถ่ายโอนกาไรระหว่างกัน ผ่านกลไกอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้

(ก) ราคาซื้อขายสินค้าหรือบริการ รวมถึงเงื่อนไขหรือวิธีการชาระค่าสินค้าหรือบริการ ที่แตกต่างไป เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ดำเนินการโดยอิสระใช้ใน การซื้อขายสินค้าหรือบริการชนิดหรือประเภทเดียวกันและภายใต้สภาวการณ์เดียวกัน

(ข) ดอกเบี้ย ค่าบริการทางการเงิน หรือค่าธรรมเนียมทางการเงินอื่นใดที่ได้รับหรือ ได้จ่ายระหว่างกันที่แตกต่างไป เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ดำเนินการโดยอิสระพึงได้รับหรือพึงได้จ่าย

(ค) รายได้หรือรายจ่ายอื่น ๆ ที่ได้รับหรือได้จ่ายระหว่างกันแตกต่างไป เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ดำเนินการโดยอิสระพึงได้รับหรือพึงได้จ่าย

ข้อ ๓ การปรับปรุงรายได้และรายจ่ายของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กัน เพื่อให้ได้จำนวนรายได้ที่พึงได้รับและรายจ่ายที่พึงได้จ่ายหากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลดังกล่าว ได้ดำเนินการโดยอิสระ ให้เจ้าพนักงานประเมินดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ดังต่อไปนี้

(๑) กรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันมีการทาธุรกรรมในลักษณะเดียวกันกับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอื่นที่ดำเนินการโดยอิสระอย่างเป็นปกติธุระ ให้ใช้ข้อมูลเกี่ยวกับรายได้หรือรายจ่ายจากธุรกรรมดังกล่าวในการพิจารณากำหนดจำนวนรายได้ที่พึงได้รับและรายจ่ายที่พึงได้จ่าย

(๒) กรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันไม่มีการทาธุรกรรมตาม (๑) ให้ใช้ข้อมูลการทาธุรกรรมลักษณะเดียวกันระหว่างบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอื่น ไม่ว่าธุรกรรมนั้นจะกระทาในหรือนอกประเทศหรือกระทาโดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือกฎหมายต่างประเทศ ในการพิจารณากำหนดจำนวนรายได้ที่พึงได้รับและรายจ่ายที่พึงได้จ่าย

ข้อ ๔ ให้อธิบดีประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการดำเนินการตามข้อ ๒ และข้อ ๓

ข้อ ๕ รายได้ที่พึงได้รับและรายจ่ายที่พึงได้จ่ายตามที่เจ้าพนักงานประเมินได้ปรับปรุงตามข้อ ๓ ให้นาไปใช้คานวณกาไรสุทธิที่ต้องเสียภาษีตามมาตรา ๖๕ หรือเงินได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี ตามมาตรา ๗๐ หรือมาตรา ๗๐ ทวิ

ให้ไว้ ณ วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๓

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ที่มา: http://www.rd.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ