เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๒๓๘) เรื่อง กำหนดสาขาและลักษณะการประกอบกิจการ การให้บริการวิจัยหรือการให้บริการทางวิชาการ
ตามมาตรา ๘๑ (๑) (ฎ) แห่งประมวลรัษฎากร อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๘๑ (๑) (ฎ) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๓๐) พ.ศ. ๒๕๓๔ อธิบดีกรมสรรพากรโดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กำหนดสาขาและลักษณะการประกอบกิจการ การให้บริการวิจัยหรือ การให้บริการทางวิชาการไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้ยกเลิกความในข้อ 3 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ ๑๒) เรื่อง กำหนดสาขาและลักษณะการประกอบกิจการ การให้บริการวิจัยหรือการให้บริการทางวิชาการ ตามมาตรา ๘๑ (๑) (ฎ) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 228) เรื่อง กำหนดสาขาและลักษณะการประกอบกิจการ การให้บริการวิจัยหรือการให้บริการทางวิชาการ ตามมาตรา ๘๑ (๑) (ฎ) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕62 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"ข้อ 3 ผู้ประกอบการให้บริการวิจัย หรือการให้บริการทางวิชาการ ตามข้อ ๑ ต้องเป็นบุคคลดังต่อไปนี้
(1) บุคคลธรรมดา หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล (2) มูลนิธิ (3) สถาบันอุดมศึกษา ซึ่งเป็นสถานศึกษาที่จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา ดังต่อไปนี้
(ก) สถานศึกษาของรัฐในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและสถานศึกษาในกำกับของรัฐ (ข) สถานศึกษาของรัฐในสังกัดกระทรวงอื่น ๆ (ค) สถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน (4) หน่วยบริการรูปแบบพิเศษที่ไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคล และเป็นส่วนหนึ่งของส่วนราชการ ตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารงานของหน่วยบริการรูปแบบพิเศษ
(5) หน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม เฉพาะที่เป็นหน่วยงานของรัฐซึ่งไม่แสวงหากำไร แต่ไม่รวมถึงรัฐวิสาหกิจ"
ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ที่ลงในประกาศนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕64
เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ
(นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)
อธิบดีกรมสรรพากร
ที่มา: http://www.rd.go.th