กฎกระทรวงฉบับที่ ๓๗๗ (พ.ศ. ๒๕๖๔) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานและทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์

ข่าวทั่วไป Monday August 23, 2021 10:02 —ข้อบังคับและประกาศภาษีสรรพากร

กฎกระทรวงฉบับที่ ๓๗๗ (พ.ศ. ๒๕๖๔) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานและทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๓ โสฬส และมาตรา ๘๕/๒๐ แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๓) พ.ศ. ๒๕๖๔ และ มาตรา ๔ แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๑๓ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ในกฎกระทรวงนี้ "ผู้ประกอบการ" หมายความว่า ผู้ประกอบการที่ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศและได้มีการใช้บริการนั้นในราชอาณาจักรโดยผู้ใช้ซึ่งมิใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียน หรือผู้ประกอบการอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มจากต่างประเทศ ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา ๘๒/๑๓ วรรคสองและวรรคสาม

"ผู้ประกอบการจดทะเบียน" หมายความว่า ผู้ประกอบการที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร

"เอกสารหลักฐาน" หมายความว่า หมายเรียก หนังสือแจ้งให้เสียภาษีอากร แบบ รายงาน หรือหนังสืออื่นใดที่เกี่ยวกับการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม การยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม การชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม การดำเนินการทางทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม การคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม การอุทธรณ์ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งอยู่ในรูปข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

หมวด ๑ การจัดทา ส่ง รับ หรือเก็บรักษาเอกสารหลักฐาน

ข้อ ๒ การติดต่อระหว่างผู้ประกอบการและกรมสรรพากรเกี่ยวกับเอกสารหลักฐาน ด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้ดำเนินการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากร โดยให้ วิธีจัดทา ส่ง รับ หรือเก็บรักษาเอกสารหลักฐาน เป็นไปตามที่กำหนดในหมวดนี้

ข้อ ๓ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสรรพากรตามข้อ ๒ ต้องมีกระบวนการอย่างน้อย ในเรื่อง ดังต่อไปนี้

(๑) การพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้ประกอบการหรือเจ้าพนักงานสรรพากร (๒) การรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศของระบบอิเล็กทรอนิกส์ (๓) กระบวนการที่ทาให้เอกสารหลักฐานอยู่ในรูปแบบที่เหมาะสม โดยสามารถแสดง หรืออ้างอิงเพื่อใช้ในภายหลัง และยังคงความครบถ้วนของข้อความในเอกสารหลักฐานได้

ข้อ ๔ การจัดทาเอกสารหลักฐานของผู้ประกอบการหรือกรมสรรพากร ให้กระทาในรูปแบบที่สามารถเข้าถึงและนากลับมาใช้ได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีมาตรฐานไม่ต่ากว่าที่กำหนด ในกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

ข้อ ๕ การส่งและรับเอกสารหลักฐานระหว่างผู้ประกอบการและกรมสรรพากร ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้ถือว่ามีผลสมบูรณ์เมื่อได้ปรากฏข้อความยืนยันการรับเอกสารหลักฐานเข้าสู่ระบบ โดยข้อความดังกล่าวต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารหลักฐาน รวมถึงวันและเวลาที่ได้ส่งเอกสารหลักฐานนั้น

การส่งเอกสารหลักฐานของผู้ประกอบการให้แก่กรมสรรพากรตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่า ผู้ประกอบการได้รับรองความถูกต้องและครบถ้วนของข้อความที่ปรากฏในเอกสารหลักฐานที่ได้ส่งนั้น

ข้อ ๖ การเก็บรักษาเอกสารหลักฐานของกรมสรรพากร ต้องใช้วิธีการที่เชื่อถือได้ และสามารถเข้าถึงข้อความในเอกสารหลักฐานนั้นในภายหลังโดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีมาตรฐานไม่ต่ากว่าที่กำหนดในกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์

หมวด ๒ ทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

ข้อ ๗ ให้ผู้ประกอบการหรือกรมสรรพากรจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม เปลี่ยนแปลงรายการที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ถอนหรือเพิกถอนทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือดำเนินการอื่นใดเกี่ยวกับทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แล้วแต่กรณี ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในหมวดนี้ แทนการดำเนินการตามส่วน ๙ โดยดำเนินการด้วยกระบวนการทางอิเล็กทรอนิกส์

เอกสารหลักฐานที่ใช้สำหรับทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่อธิบดีประกาศกำหนด

ข้อ ๘ ในการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอภายในกำหนดเวลา ดังต่อไปนี้

(๑) สำหรับผู้ประกอบการที่มีมูลค่าของฐานภาษีในการประกอบกิจการเกินมูลค่าของฐานภาษี ของกิจการขนาดย่อมตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามมาตรา ๘๑/๑ ให้ยื่นคำขอจดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่มภายในสามสิบวันนับแต่

(ก) วันที่มูลค่าของฐานภาษีในการประกอบกิจการเกินมูลค่าของฐานภาษีของกิจการ ขนาดย่อม สำหรับกรณีที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดมูลค่าของฐานภาษีของกิจการขนาดย่อมไว้แล้ว หรือ

(ข) วันที่พระราชกฤษฎีกาใช้บังคับ สำหรับกรณีที่มีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดมูลค่าของฐานภาษีของกิจการขนาดย่อมขึ้นใหม่ หรือมีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกากำหนดมูลค่าของฐานภาษีของกิจการขนาดย่อมน้อยกว่าที่กำหนดไว้ก่อน

(๒) สำหรับผู้ประกอบการที่มีมูลค่าของฐานภาษีในการประกอบกิจการไม่เกินมูลค่าของ ฐานภาษีของกิจการขนาดย่อมตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามมาตรา ๘๑/๑ ที่ประสงค์ จะจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้ก่อนวันที่มีมูลค่าของฐานภาษีเกินมูลค่า ของฐานภาษีของกิจการขนาดย่อมนั้น

ข้อ ๙ ในกรณีที่คำขอและเอกสารหลักฐานถูกต้องและครบถ้วน และผู้ยื่นคำขอไม่เคยเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ถูกอธิบดีสั่งเพิกถอนทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้กรมสรรพากรประกาศรายชื่อผู้ประกอบการจดทะเบียนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียน และให้ถือว่าผู้ประกอบการนั้นได้แสดงใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา ๘๕/๔ แล้ว

ให้ผู้ประกอบการที่มีการประกาศรายชื่อตามวรรคหนึ่ง เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนนับแต่วันที่ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

ข้อ ๑๐ ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงรายการที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มดังต่อไปนี้ ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนแจ้งการเปลี่ยนแปลงนั้น ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

(๑) การเปลี่ยนแปลงรายการที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในสาระสาคัญ ได้แก่ ชื่อผู้ประกอบการ ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการประกอบกิจการ และที่อยู่บนเครือข่าย อินเทอร์เน็ตหรือเครือข่ายทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นที่ใช้ในการประกอบกิจการ

(๒) การหยุดประกอบกิจการชั่วคราวเป็นเวลาติดต่อกันเกินกว่าสามสิบวัน (๓) การย้ายสถานประกอบการ (๔) การเลิกประกอบกิจการ รวมถึงการโอนกิจการทั้งหมดให้แก่ผู้ประกอบการอื่น และ การควบเข้ากันเป็นผู้ประกอบการรายใหม่

(๕) รายการอื่นตามที่อธิบดีประกาศกำหนด ให้กรมสรรพากรประกาศการเปลี่ยนแปลงรายการที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการจดทะเบียนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนการออกใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่เปลี่ยนแปลงรายการแล้ว

ข้อ ๑๑ ในกรณีที่มีการโอนกิจการทั้งหมดให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนอื่น ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งเป็นผู้โอนกิจการแจ้งการโอนและแจ้งการเลิกประกอบกิจการ ให้กรมสรรพากรทราบในคราวเดียวกัน

ในกรณีที่ผู้รับโอนกิจการตามวรรคหนึ่งไม่ใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียน ให้ผู้ประกอบการ รายดังกล่าวดำเนินการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามข้อ ๘

ข้อ ๑๒ ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งเป็นนิติบุคคลใดประสงค์จะควบเข้ากัน ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนนั้นแจ้งการเลิกประกอบกิจการ และให้ผู้ประกอบการรายใหม่ซึ่งได้ควบเข้ากัน ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้ควบเข้ากัน

ข้อ ๑๓ ในกรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาถึงแก่ความตาย ให้ผู้ที่รับผิดชอบในการดำเนินกิจการของผู้ตายแจ้งให้กรมสรรพากรทราบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยเร็วที่สุด และให้มีผลเป็นการแจ้งเลิกประกอบกิจการของผู้ประกอบการจดทะเบียน

ให้ผู้ที่รับผิดชอบในการดำเนินกิจการของผู้ตายดำเนินการเกี่ยวกับกิจการเท่าที่จาเป็น จนกว่าอธิบดีจะสั่งขีดชื่อผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ถึงแก่ความตายนั้นออกจากทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และระยะเวลาที่อธิบดีประกาศกำหนด

ในกรณีที่ผู้จัดการมรดกหรือทายาทของผู้ตายประสงค์ประกอบกิจการของผู้ประกอบการ จดทะเบียนที่ถึงแก่ความตายต่อไป ให้บุคคลดังกล่าวยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎกระทรวงนี้

ข้อ ๑๔ ในกรณีดังต่อไปนี้ ให้อธิบดีสั่งขีดชื่อผู้ประกอบการจดทะเบียนออกจากทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

(๑) เมื่อผู้ประกอบการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ (๒) เมื่ออธิบดีสั่งถอนทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (๓) เมื่ออธิบดีสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ข้อ ๑๕ ในกรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ หรืออธิบดีสั่งถอนทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้กรมสรรพากรแจ้งให้ผู้ประกอบการ จดทะเบียนทราบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจดทะเบียนยังคงต้องรับผิดในฐานะ เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนต่อไป จนกว่าอธิบดีจะสั่งขีดชื่อผู้ประกอบการจดทะเบียนนั้นออกจากทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม

เมื่ออธิบดีสั่งขีดชื่อผู้ประกอบการจดทะเบียนออกจากทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้กรมสรรพากร แจ้งการขีดชื่อให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนทราบและประกาศรายชื่อผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ถูก สั่งขีดชื่อดังกล่าวผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และให้ถือว่าผู้ประกอบการดังกล่าวได้คืนใบทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ข้อ ๑๖ ผู้ประกอบการที่ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก่อนวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ และกรมสรรพากรประกาศรายชื่อเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียน ให้ถือว่า เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป

ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ที่มา: http://www.rd.go.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ