สำหรับการบริจาคเพื่อการสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐
ที่จัดตั้งโดยสถานศึกษา ตามพระราชกฤษีกาออกตามความในประมวลรัษากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษากร (ฉบับที่ ๗๓๗) พ.ศ. ๒๕๖๔ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔ และมาตรา ๘ แห่งพระราชกฤษีกาออกตามความ ในประมวลรัษากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษากร (ฉบับที่ ๗๓๗) พ.ศ. ๒๕๖๔ อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการบริจาคทรัพย์สินให้แก่ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ ที่จัดตั้งโดยสถานศึกษา ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับการบริจาค ทรัพย์สินให้แก่ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ ที่จัดตั้งโดยสถานศึกษา ที่ได้กระทาตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามมาตรา ๔ แห่งพระราชกฤษีกาออกตามความในประมวลรัษากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษากร (ฉบับที่ ๗๓๗) พ.ศ. ๒๕๖๔ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังนี้
(๑) ทรัพย์สินที่บริจาคต้องเป็นทรัพย์สินที่เป็นเครื่องจักร ส่วนประกอบ อุปกรณ์ เครื่องมือ หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครื่องจักรเพื่อระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ ที่ได้รับการรับรองจากสานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(๒) ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ ที่จัดตั้ง โดยสถานศึกษาต้องได้รับการรับรองจากสานักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ข้อ ๒ การคานวณมูลค่าของทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามข้อ ๑ ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ดังนี้
(๑) กรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซื้อทรัพย์สินมาเพื่อบริจาค ต้องมีหลักฐานการได้มาซึ่งทรัพย์สินที่ระบุจานวนและมูลค่าของทรัพย์สินนั้น โดยให้ถือว่ามูลค่า ตามหลักฐานดังกล่าวเป็นมูลค่าของรายจ่ายที่มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
(๒) กรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนาทรัพย์สินที่ได้บันทึกบัชีทรัพย์สินของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นมาบริจาค ให้ถือเอามูลค่าต้นทุนส่วนที่เหลือจากการคานวณหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินเป็นมูลค่าของรายจ่ายที่มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
(๓) กรณีที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนาทรัพย์สินมาบริจาคไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินที่ผลิตเองหรือซื้อมาเพื่อขาย ให้ถือเอามูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินดังกล่าวที่มีเอกสารหลักฐานสามารถพิสูจน์ได้เป็นมูลค่าของรายจ่ายที่มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้แต่มูลค่าดังกล่าว ต้องไม่เกินราคาสินค้าคงเหลือยกมาตามมาตรา ๖๕ ทวิ (๖) แห่งประมวลรัษากร
(๔) มูลค่าของทรัพย์สินหรือสินค้าที่ซื้อมาบริจาคนั้น จะต้องมีจานวนไม่เกินราคาที่พึงซื้อได้โดยปกติ ทั้งนี้ ตามมาตรา ๖๕ ตรี (๑๕) แห่งประมวลรัษากร
ข้อ ๓ การยกเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับเงินได้ที่ได้รับจากการโอนทรัพย์สินหรือการขายสินค้า อันเนื่องมาจากการบริจาคทรัพย์สินให้แก่ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ ที่จัดตั้งโดยสถานศึกษาตามมาตรา ๘ แห่งพระราชกฤษีกาออกตามความในประมวลรัษากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษากร (ฉบับที่ ๗๓๗) พ.ศ. ๒๕๖๔ ผู้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีดังกล่าวต้องมีหลักฐานดังต่อไปนี้เก็บไว้ ณ สถานประกอบการพร้อมที่จะให้เจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบได้
(๑) หลักฐานการรับบริจาคที่ออกโดยศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ ที่จัดตั้งโดยสถานศึกษา ซึ่งได้ระบุมูลค่าของทรัพย์สินที่บริจาค เช่น หนังสือขอบคุณ ใบประกาศเกียรติคุณ
(๒) หลักฐานการรับรองทรัพย์สินที่บริจาคตามข้อ ๑ (๑) (๓) ห
เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ
(นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ)
อธิบดีกรมสรรพากรลักฐานการรับรองศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม ๔.๐ ตามข้อ ๑ (๒)
ข้อ ๔ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕
ที่มา: http://www.rd.go.th